บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2016

สูตรน้ำมะละกอ

ส่วนผสม เนื้อมะละกอ 2 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสุก 1 ช้อนชา วิธีทำ 1 นำมะละกอสุกล้างน้ำทั้งเปลือก แล้วปอกเปลือกออก ฝานไส้ทิ้งแล้วหั่นเป็นชิ้น ใส่ลงเครื่อง ปั่นให้ละเอียด 2 เชื่อมน้ำเชื่อม (น้ำตาล ½ ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 ถ้วยตวง 3 ผสมเนื้อมะละกอกับน้ำเชื่อมและน้ำสุก ดูความเข้มข้นตามชอบ 4 เติมน้ำมะนาวคนให้เข้ากัน พร้อมดื่ม เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำตาลสด เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรนิวเทรนมะเขือเทศเชค

สูตรนิวเทรนมะเขือเทศเชค

คุณค่าทางอาหารและโภชนาการ เครื่องดื่มแก้วนี้มีมะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินเอจากธรรมชาติมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซล มีเส้นใยอาหารสูง ส่วนผสม มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วยตวง น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง เกลือป่น ¼ ช้อนชา น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา นิวเทรน 5 ช้อนนิวเทรน วิธีทำ 1 ใส่มะเขือเทศลงโถปั่น ตามด้วยนิวเทรน เกลือป่น น้ำเปล่า น้ำตาลทราย และน้ำแข็ง 2 เปิดเครื่องปั่นๆ จนเป็นเกล็ดละเอียดพร้อมดื่มแบบเย็นๆ เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำมะละกอ เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำลูกตาลอ่อน

สูตรน้ำลูกตาลอ่อน

ส่วนผสม ลูกตาลอ่อน 500 กรัม น้ำตาลทราย 200 กรัม น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง เกลือป่น วิธีทำ 1 ลูกตาลอ่อนมาปอกเปลือกออก ล้างน้ำหั่นเป็นชิ้นเล็ก 2 ลูกตาลอ่อนที่เตรียมไว้ผสมกับน้ำ นำไปปั่นให้ละเอียด ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ 3 ลูกตาลที่ได้นำขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟกลางพอเดือด ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น ใช้ไม้พายคนให้ละลาย ยกลง พักไว้ให้เย็น พร้อมดื่ม เคล็ดลับถัดไป สูตรนิวเทรนมะเขือเทศ เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำลิ้นจี่

สูตรน้ำลิ้นจี่

ส่วนผสม ลิ้นจี่ ½ กิโลกรัม น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง เกลือป่น เล็กน้อย วิธีทำ 1 นำลิ้นจี่มาล้างน้ำทั้งเปลือก แล้วปอกเปลือกออก นำเมล็ดออกเอาแต่เนื้อ 2 นำน้ำที่เตรียมไว้ผสมกับเนื้อลิ้นจี่ นำไปปั่นเป็นเนื้อเดียวกันใช้ผ้าขาวบางคั้นเอาแต่น้ำ 3 นำน้ำลิ้นจี่ น้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งไฟคนน้ำตาลทรายให้ละลายพอเดือดยกลง กรองอีกครั้งหนึ่ง เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำลูกตาลอ่อน เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำมะม่วง

สูตรน้ำมะม่วง

ส่วนผสม เนื้อมะม่วงสุก 3 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง น้ำมะนาว 2 ช้อนชา วิธีทำ 1 มะม่วงล้างน้ำให้สะอาดนำไปปอกเปลือก หั่นเอาแต่เนื้อ 2 นำเนื้อมะม่วงที่ได้ ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง 3 นำน้ำมะม่วงที่ได้ผสมน้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำเปล่า คนให้เข้ากันตั้งไฟให้เดือด แล้วก็ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งหนึ่ง 4 นำน้ำมะม่วงที่ได้จัดเสิร์ฟกับน้ำแข็ง เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำลิ้นจี่ เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำข้าวโพด

สูตรน้ำข้าวโพด

ส่วนผสม ข้าวโพดหวาน 3 ฝัก น้ำเปล่า 5 ถ้วย น้ำตาลทราย 1 ถ้วย วิธีทำ 1 เอาเปลือกข้าวโพดออก ให้ฝานเอาแต่เนื้อ เอาทั้งเนื้อและซังข้าวโพดใส่หม้อ ใส่น้ำตั้งไฟจนเดือด 2 ตักซังข้าวโพดออก ใส่น้ำตาลตั้งไฟ พอน้ำตาลละลาย ยกลงปล่อยให้เย็น 3 ผสมข้าวโพดกับน้ำเชื่อมเข้าด้วยกัน นำไปปั่นแล้วกรองด้วยกระชอนตาถี่ใส่หม้อ 4 ยกหม้อน้ำข้าวโพด ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง พอเดือดยกลง ปล่อยให้เย็นเทใส่ภาชนะ แช่เย็น เสิร์ฟกับน้ำแข็ง สรรพคุณ ดื่มแก้กระหาย ทำให้ร่างกายสดชื่น มีคุณค่าทางอาหาร มี วิตามินเอ ฟอสฟอรัสสูง วิตามินซี เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำมะม่วง เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำส้มคั้น

สูตรน้ำส้มคั้น

ส่วนผสม ผลส้มสด 7 ผล น้ำตาลทราย 300 กรัม น้ำเปล่า 100 กรัม เกลือป่น เล็กน้อย วิธีทำ 1 นำน้ำตาลทราย น้ำเกลือ ตั้งไฟอ่อนๆ คนจนน้ำตาลละลายแล้วยกลง 2 ล้างผลส้มให้สะอาดแล้วผ่าส้มตามขวางของลูกแล้วคั้นเอาแต่น้ำ เอาเมล็ดออก 3 นำน้ำเชื่อมผสมกับน้ำส้มที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน พร้อมจัดเสิร์ฟกับน้ำแข็งเย็นๆ เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำข้าวโพด เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำแครอท

สูตรน้ำแครอท

ส่วนผสม แครอท 1 กิโลกรัม เกลือป่น ½ ช้อนชา น้ำเชื่อมข้น 80 กรัม น้ำต้มสุก 400 กรัม วิธีทำ 1 ล้างแครอทให้สะอาดปอกเปลือก 2 หั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในเครื่องปั่น ใส่น้ำต้มสุกเล็กน้อย แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เก็บส่วนที่เป็นน้ำไว้ 3 นำน้ำแครอทที่เตรียมไว้ผสมกับน้ำเชื่อม เกลือ คนให้เข้ากันพร้อมดื่ม เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำส้มคั้น เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำฝรั่ง

สูตรน้ำฝรั่ง

ส่วนผสม เนื้อฝรั่งสุกหั่น 7 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 10 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำ 1 หั่นเนื้อฝรั่งสุกเป็นชิ้น นำไปปั่นละเอียด 2 ละลายเนื้อฝรั่งกับน้ำ ตั้งไฟพอเดือดแล้วยกลง 3 กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่น้ำฝรั่ง 4 นำไปตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำตาล เกลือ คนให้ละลาย 5 พักไว้ให้เย็น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งหนึ่ง จะได้น้ำฝรั่งพร้อมดื่มหรือเติมน้ำแข็งเย็นๆเพิ่มความสดชื่น เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำแครอท เคล็ดลับก่อนหน้า วิธีทำน้ำแอปเปิลสูตร 2

วิธีทำน้ำแอปเปิล สูตร 2

ส่วนผสม แอปเปิลสีแดงสด 3 ผล น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น เล็กน้อย วิธีทำ 1 นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งไฟคนให้ละลาย จนเดือดยกลงทิ้งไว้ให้เย็น 2 นำแอปเปิลมาล้าง และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆทั้งเปลือก 3 ปั่นให้ละเอียด ตักออกใส่ภาชนะ ผสมน้ำเชื่อมคนให้เข้ากันแล้วใช้ผ้าขาวบางคั้นน้ำ ตั้งไฟพอเดือดยกลง 4 ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจัดเสิร์ฟกับน้ำแข็ง หอมหวานเย็นชื่นใจนักแล เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำฝรั่ง เคล็ดลับก่อนหน้า วิธีทำน้ำแอปเปิล สูตร 1

วิธีทำน้ำแอปเปิล สูตร 1

ส่วนผสม เนื้อแอปเปิล 3 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำ 1 ล้างแอปเปิลให้สะอาด แล้วนำมาหั่นให้เป็นชิ้นๆ 2 นำเนื้อแอปเปิลผสมน้ำ ต้มให้เดือด พอเนื้อแอปเปิลเปื่อยได้ที่ก็นำไปปั่นให้ละเอียด 3 ผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ละลาย นำไปต้มอีกครั้งพอเดือดก็ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เคล็ดลับถัดไป วิธีทำน้ำแอปเปิลสูตร 2 เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำมะตูม

สูตรน้ำมะตูม

ส่วนผสม มะตูมแห้ง 300 กรัม น้ำเปล่า 5 ลิตร น้ำตาลทราย 500 กรัม วิธีทำ 1 นำมะตูมแห้งไปปิ้งให้หอมเกือบไหม้ นำมาแช่น้ำเปล่าไว้ 30 นาที เพื่อให้มะตูมอ่อนตัวจะใช้เวลาในการต้มน้อยลง 2 ต้มน้ำแช่มะตูม แล้วกรองเอาแต่น้ำ 3 นำน้ำมะตูมที่เตรียมไว้ ตั้งไฟ เติมน้ำตาล พอเดือดก็ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางนำขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง พอเดือดยกลง ดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น แล้วแต่ความชอบของแต่ละท่าน เคล็ดลับถัดไป วิธีทำน้ำแอปเปิล สูตร 1 เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำเสาวรส

สูตรน้ำเสาวรส

ส่วนผสม เสาวรส 5 กิโลกรัม น้ำตาลทราย 570 กรัม น้ำเปล่า 2230 ซีซี เกลือป่น 6 กรัม วิธีทำ 1 นำเสาวรสผ่าครึ่ง ตักเอาแต่เนื้อในออกมา จะได้ประมาณ 2.5 กิโลกรัม 2 นำเนื้อมาปั่นเพื่อรีดเอาเนื้อออกมาจากเมล็ด นำมากรองด้วยกระชอนจะได้น้ำประมาณ 1 กิโลกรัม 3 นำน้ำตาลทรายกับน้ำและเกลือตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 4 นำน้ำเสาวรสมาผสมกับน้ำเชื่อม ตั้งไฟให้เดือด ยกลง และกรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ให้เย็น 5 นำไปแช่ตู้เย็น (ไม่ควรเสิร์ฟกับน้ำแข็งเพราะจะทำให้รสชาติจะจืดชืด) เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำมะตูม เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำกระเจี๊ยบแดง

สูตรน้ำกระเจี๊ยบแดง

ส่วนผสม ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 1 ถ้วยตวง น้ำเปล่า 12 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง เกลือป่น นิดหน่อย วิธีทำ 1 นำดอกกระเจี๊ยบแห้งล้างน้ำให้สะอาด 2 นำน้ำกับดอกกระเจี๊ยบแห้งมาตั้งไฟต้มจนน้ำเป็นสีแดงเข้ม ใส่น้ำตาลทราย เกลือ คนจนละลาย เคี่ยวต่อไปอีก 15 นาที แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น พร้อมดื่มกับน้ำแข็ง เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำเสาวรส เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำมะเฟือง

สูตรน้ำมะเฟือง

ส่วนผสม มะเฟืองหั่น 40 กรัม น้ำเชื่อม 30 กรัม เกลือเสริมไอโอดีน 1 กรัม น้ำต้มสุก 200 กรัม วิธีทำ 1 ล้างมะเฟืองที่แก่จัดให้สะอาด หั่น แกะเมล็ดออกแล้วนำใส่เครื่องปั่น เติมน้ำสุกปั่นให้ละเอียด 2 เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมดูรสตามใจชอบ ถ้าต้องการเก็บไว้ดื่มให้ตั้งไฟให้เดือด 3-5 นาที กรอกใส่ขวดนึ่ง 20-30 นาที เย็นแล้วเก็บเข้าตู้เย็น จะได้น้ำมะเฟืองสีเหลืองอ่อนๆดื่มแล้วหวานหอมเย็นชื่นใจนัก เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำกระเจี๊ยบแดง เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรน้ำแคนตาลูป

สูตรน้ำแคนตาลูป

ส่วนผสม แคนตาลูป 500 กรัม น้ำเปล่า 200 กรัม น้ำตาลทราย 50 กรัม เกลือป่น 10 กรัม วิธีทำ 1 แคนตาลูปไปล้างให้สะอาด ปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 นำแคนตาลูปไปปั่นให้ละเอียด คั้นอาน้ำออกมา 3 นำน้ำแคนตาลูปที่ได้ผสมน้ำ น้ำตาลทราย เกลือ 4 ตั้งไฟคนให้เข้ากัน ยกลง แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งหนึ่งจัดน้ำแคนตาลูปจัดเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำมะเฟือง เคล็ดลับก่อนหน้า ไข่เค็มสูตรใบเตยดินสอพองแบบต้มสุก

ไข่เค็ม สูตรใบเตยดินสอพองแบบต้มสุก

ส่วนผสม ไข่เป็ด 200 ฟอง เกลือเม็ด 2 กิโลกรัม ดินสอพอง 5 กิโลกรัม น้ำสะอาด 1 ลิตร ใบเตย 20 ใบ วิธีทำ 1 นำไข่เป็ดและใบเตยมาล้างให้สะอาด 2 นำน้ำลงผสมกับเกลือและแช่คนให้เกลือละลาย 3 นำใบเตยมาหั่นฝอย 4 นำน้ำเกลือและใบเตยหั่นฝอยมาผสมกับดินสอพองแล้วขยำให้เนียนละเอียด (แช่ให้ละลายดินสอพอง) 5 นำไข่เป็ดวางใส่ภาชนะ (กะละมัง) นำไปแช่ในที่เตรียมไว้ ข้อแนะนำ ควรเขียนวัน เดือน ปี ที่ผลิตไว้ให้ชัดเจนบนภาชนะที่ทำไข่เค็มจนครบ 20 วัน ก็จะได้ไข่เค็มเป็นมันเยิ้ม วิธีต้มไข่เค็ม 1 นำไข่เค็มที่ดองไว้ขึ้นวางในหม้อที่เตรียมต้ม ใส่น้ำสะอาดให้ท่วมไข่และนำดินสอพองละเอียด 2 กรัม สารส้ม 2 กรัม ใส่ลงไปเพื่อดินสอพองและสารส้มจะทำให้ไข่เค็มต้มสุกมีสีขาวสะอาด น่าซื้อและน่ารับประทาน 2 ขณะต้มใช้ไฟอ่อนจึงจะได้ไข่เค็มไม่แตก มีคุณภาพดีใช้เวลาในการต้มนาน 15-20 นาที เคล็ดลับถัดไป สูตรน้ำแคนตาลูป เคล็ดลับก่อนหน้า ทำไข่เค็มสูตรใบเตยดินสอพอง แบบพอกดิน

ทำไข่เค็มสูตรใบเตยดินสอพอง แบบพอกดิน

ส่วนผสม ไข่เป็ด 200 ฟอง เกลือเม็ด 2 กิโลกรัม ดินสอพอง 5 กิโลกรัม น้ำสะอาด 1 ลิตร ใบเตย 20 ใบ แกลบดำ 2 กิโลกรัม วิธีทำ 1 นำไข่เป็ดมาล้างและใบเตยมาล้างหั่นฝอย 2 น้ำผสมกับเกลือ นำใบเตยและดินสอพองแช่ คนให้เกลือละลาย 3 นำไข่เป็ดที่เตรียมไว้มาพอกดินในข้อ 2 ที่เตรียมไว้ 4 นำไข่เป็ดไปคลุกเคล้าแกลบดำ 5 นำไข่เป็ดคลุกแกลบวางใส่ในตะแกรงกระจาด (วางให้แห้งดี จัดวางในภาชนะ เก็บไว้ในที่แห้งมิดชิดแต่โปร่ง) วิธีรับประทานแบบพอกดิน 1 เก็บไว้นาน 3 วัน (ทำเป็นไข่หวาน บัวลอยไข่หวาน) 2 เก็บไว้นาน 7 วัน (ทำเป็นไข่เค็มดาว) 3 เก็บไว้นาน 20-30 วัน นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วต้มรับประทานได้เลย เคล็ดลับถัดไป ไข่เค็มสูตรใบเตยดินสอพองแบบต้มสุก เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรทำกะปิจากกุ้งเคย

สูตรทำกะปิจากเคย

กะปิปะเหลียน กะปิเกาะช้าง เป็นกะปิที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีรสชาติดี ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะพวกเขามีเคล็ดลับสำหรับการทำกะปิคือ ตัวเคย เคย หรือกุ้งเคย เป็นสัตว์ทะเลที่มีลักษณะคล้ายลูกกุ้งตัวเล็กจะมีมากเฉพาะหน้าพรรษาหรือหน้าฝน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงพฤศจิกายนของปี กะปิของสถานที่ดังกล่าวจะมีความพิเศษตรงที่เขาจะให้ความสำคัญมากในการเลือกเคย เอาเฉพาะเคยส้มโอ (เคยก้อน) เคยส้มโอเป็นเคยตัวใหญ่ สีใสและอยู่ในน้ำลึก ที่มาจากน้ำทะเลที่ใสสะอาดปราศจากมลภาวะ ทำให้เคยมีคุณภาพดี เมื่อนำมาทำกะปิจะได้กะปิสีสวยมีรสชาเยี่ยมมาก ส่วนผสม เคยสด 100 กิโลกรัม เกลือ 13-15 กิโลกรัม (ทำเสร็จแล้วจะได้กะปิ 45-47 กิโลกรัม) วิธีทำ 1 เอาตัวเคยที่ได้จากทะเลน้ำลึกมาล้างคัดให้สะอาด 2 ผสมกับเกลือตามสูตร หมักไว้ 1 คืน 3 นำมาตากแดดในตอนเช้า 4 ตกบ่ายนำเคยที่ตากแห้งไว้มาตำ 5 นำไปอัดในอ่างให้หอม ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนเศษ จึงนำมาประกอบอาหารหรือเพื่อจำหน่าย จะได้กะปิที่มีรสชาติดี สีสวยและมีกลิ่นหอม กะปิที่ได้นำมาอัดกระปุกหรือใส่ภาชนะที่ใช้ในการแบ่งขาย การอัดกะปิเป็นเรื่องที่ต้องให้คว