บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2015

เกาลัดสมุนไพรฤทธิ์อุ่น

เกาลัดเป็นสมุนไพรฤทธิ์อุ่นอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณและประโยชน์ทางยามากมายที่ควรรู้ไว้ นอกจากนี้รสชาติของเกาลัดก็หอม หวาน มันอร่อยอีกด้วยดูสรรพคุณและวิธีใช้เกาลัดในฐานะสมุนไพรฤทธิ์อุ่นชนิดหนึ่งได้ดังนี้ครับ สรรพคุณ เกาลัดมีฤทธิ์อุ่น รสหวาน และมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงไต กล้ามเนื้อ ม้ามรวมทั้งกระเพาะอาหารและบำรุงลม สามารถใช้แก้ไอ ละลายเสมหะ แก้อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเดิน สามารถช่วยในการห้ามเลือด และการไหลเวียนของเลือดได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการถ่ายเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล แก้วัณโรคที่ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต และแก้อาเจียนเป็นเลือด วิธีใช้ ต้มเกาลัด 500 กรัมกับน้ำตาลทราย 150 กรัมจนนิ่ม แล้วนำมายีและกดด้วยแม่พิมพ์ กินเป็นขนมหรือของว่างสำหรับเด็กที่มีกระดูกและกล้ามเนื้ออ่อนแอ และยังเหมาะกับผู้ป่วยหรือผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง กินเกาลัดแห้ง 7 เมล็ดต่อวัน กับโจ๊กไตเนื้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดหลังและปวดเท้าได้ หรือกินเกาลัดดิบ แก้คออักเสบ ใช้เปลือกเกาลัดบดเป็นผงให้ได้ 6 กรัม ผสมกับน้ำผึ้ง 30 กรัม กินรักษาริดสีดวงทวาร ต้มเกาลัด 60 กรัมกับพุทราจีนแห้ง 4 ผล และเนื้อกิ

ผลเสียของการขับรถลากเกียร์และเปลี่ยนเกียร์อย่างรวดเร็ว

เกียร์รถเป็นอุปกรณ์ที่ติดมากับตัวรถอีกชิ้นหนึ่งที่มีความสำคัญมากเพราะเป็นส่วนประกอบของรถที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหรือเคลื่อนที่ไปได้ ในปัจจุบันรถยนต์ตามท้องตลาดทั่วไปที่ผลิตขึ้นมาจะเป็นแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต การขับรถยนต์โดยเฉพาะรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา การเข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง คลัทช์ และเบรกจะต้องสัมพันธ์กันถึงจะท่ำให้รถแล่นไปได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัย นอกจากนี้หากปฏิบัติได้ถูกวิธีก็จะปลอดภัยจากอุบัติเหตุแล้วยังจะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์หรือสามารถใช้รถยนต์ได้นานขึ้นไม่เสียเร็ว ฉะนั้นควรขับขี่อย่างปลอดภัยและเข้าเกียร์ให้ถูกต้อง ดูวิธีปฏิบัติในการเข้าเกียร์อย่างถูกต้องได้ดังนี้ครับ   เวลาขับรถอย่าขับแบบลากเกียร์ เพราะการลากเกียร์มีผลเสียต่อรถยนต์ของคุณ ไม่ว่าจะลากเกียร์ในกรณีใดก็ตาม เช่น ในขณะที่กำลังเร่งเพื่อจะแซงรถคันหน้า หรือขณะขับขึ้นเนินก็ตาม ผลเสียก็คือจะทำให้คลัตช์เสียเร็วขึ้น แถมยังกินแรงของเครื่องยนต์ รวมไปถึงทำให้ยางล้อรถหมดอายุไวขึ้นอีกด้วย ถ้าต้องการยืดอายุการใช้งานรถยนต์ ประการแรกสุดที่ควรทำคือเปลี่ยนเกียร์ในจังหวะที่เหมาะสม เช่น หยุดรถให้นิ่งก่อนจะใส่เกียร์ถ

มันสำปะหลังเชื่อม

มันสำปะหลังถือเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกกันมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยเพราะสามารถนำไปแปรรูปได้หลากหลาย เช่นนำไปทำแป้งมันสำปะหลัง ทำอาหารสัตว์และอื่นๆอีกมากมายนอกจากนี้ยังนำมาทำเป็นอาหารประเภทของหวานรับประทานกันภายในครัวเรือนได้อีกด้วยซึ่งก็สามารถนำมาทำเป็นของหวานได้หลายชนิดไม่ว่าจะต้ม ย่างแล้วนำมาจิ้มกินกับน้ำตาล หรือราดน้ำผึ้ง หรือนมข้นหวานก็อร่อยไปอีกแบบ หรือจะนำไปทำเป็นบวชกะทิใส่น้ำตาลก็อร่อยเช่นกัน แต่ที่อยากจะนำเสนอในที่นี้คือการนำมันสำปะหลังไปเชื่อมรับประทานซึ่งเป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจและอร่อยไม่แพ้กัน นอกจากนี้ขั้นตอนการทำก็ง่ายไม่ได้ยุ่งยากอะไรดูวิธีการทำมันสำปะหลังเชื่อมได้ดังนี้ครับ   สูตรมันสำปะหลังเชื่อม ส่วนผสม มันสำปะหลัง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 3 ถ้วย น้ำ 4 ถ้วย เกลือป่น ½ ช้อนชา วิธีทำ นำหัวมันสำปะหลังมาล้างแล้วปอกเปลือกทิ้ง หั่นเป็นท่อนๆขนาดเท่ากัน เสร็จแล้วล้างน้ำอีกครั้ง ตั้งกระทะทองเหลืองเพื่อเชื่อมน้ำตาล ถ้ามีเศษสิ่งสกปรกให้กรองออก แล้วเอามันสำปะหลังลงเชื่อม เติมเกลือ ใช้ไฟอ่อน พลิกชิ้นมันให้ทั่ว เมื่อเชื่อมได้ที่สังเกตได

มันเทศเชื่อม

มันเทศเป็นพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวานสามารถทำได้หมด อย่างอาหารคาวก็อาจนำมาใช้เป็นส่วนผสมในแกงต่างๆ ส่วนอาหารหวานก็สามารถน้ำมาต้มจิ้มน้ำตาล บวชกะทิ หรือเชื่อม ฉาบน้ำตาลก็ได้ทั้งนั้น ในที่นี้จะมานำเสนอการทำมันเทศเชื่อมกัน ท่านสามารถดูส่วนผสมและวิธีทำได้ดังต่อไปนี้   วิธีทำมันเทศเชื่อม ส่วนผสม มันเทศได้ขนาดตามต้องการ 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาว 3 ถ้วย น้ำปูนใส 4 ถ้วย น้ำ 2 ถ้วย วิธีทำ นำมันเทศมาล้างแล้วปอกเปลือก เสร็จแล้วล้างน้ำอีกครั้งเพื่อให้ยางหรือรอยเปื้อนจากมือออกไปให้หมด   แล้วนำมันเทศมาหั่นเป็นชิ้นๆตามต้องการ เสร็จแล้วในมาแช่ในน้ำปูนใสนาน 1 ชั่วโมงแล้วเอาออกมาล้างน้ำอีกที ตั้งกระทะทองเหลืองหรือหม้อเคลือบบนเตา เติมน้ำ ต้มกับน้ำตาลทรายจนละลายหมด เสร็จแล้วเอามันเทศลงไปเชื่อม พร้อมพลิกกลับให้เชื่อมให้ทั่วแล้วให้หรี่ไฟลงเมื่อน้ำเริ่มงวด เสร็จแล้วยกลงจากเตาตักใส่จานรอรับประทาน มันเทศหากเชื่อมได้ที่จะมีความใสควรให้มีน้ำเชื่อมคลุกเคล้าอยู่แล้วตักขึ้นใส่จาน เวลารับประทานอาจเติมหัวกะทิที่นึ่งกับเกลือพอ