บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2015

ถั่งเฉ้าสมุนไพรฤทธิ์อุ่น

สรรพคุณของถั่งเฉ้าสมุนไพรฤทธิ์อุ่น ถั่งเฉ้ามีสรรพคุณคล้ายโสม กล่าวคือมีฤทธิ์อุ่น รสหวาน และมีกลิ่นหอม จึงช่วยบำรุงร่างกายสำหรับผู้ที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหรืออยู่ในช่วงฟื้นไข้ ทั้งยังช่วยบำบัดอาการอ่อนเพลีย แก้ไอ หอบหืด ช่วยละลายเสมหะ ช่วยระงับประสาท ทำให้นอนหลับสนิทดี ช่วยปรับการทำงานของกระเพาะอาหารให้เป็นปกติ รักษาอาการปวดเอว (ให้กินติดต่อกันเป็นเวลานาน) บำรุงปอด บำรุงไต ป้องกันไม่ให้เม็ดเลือดขาวลดจำนวนลง ในกรณีที่รักษาโรคด้วยเคมีและรังสี ป้องกันน้ำอสุจิเคลื่อนบ่อย เป็นสมุนไพรที่ดีในการปรับการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ วิธีใช้ถั่งเฉ้าสมุนไพรฤทธิ์อุ่น 1 ให้ใช้ทั้งตัวหนอนและเห็ด โดยให้ตุ๋นถั่งเฉ้า 6 ตัวกับเป็ดแก่ 1 ตัว (สับเป็นชิ้น) ใช้กินเป็นซุป จะช่วยบำรุงไต รักษาอาการปวดหลังบริเวณบั้นเอวและบำบัดอาการกามตายด้านหรือฝันเปียกได้ 2 ให้ใช้ถั่งเฉ้า 9 กรัม ห่วยซัว 30 กรัม ตุ๋นรวมกับไก่ดำ 2 ขีดครึ่งเติมน้ำพอประมาณ ตุ๋นจนเนื้อไก่เปื่อยนุ่ม แล้วกินทั้งซุปและเนื้อไก่ จะช่วยบำรุงกำลัง แก้อาการท้องผูก ปากแห้ง เหงื่อออกง่าย หอบ ปัสสาวะเหลืองและมีปริมาณน้อย 3 ต้มถั่งเฉ้า 10

วิธีขจัดคราบสกปรกบนพรมสวย

พรมสวยๆแน่นอนว่าต้องมีราคาแพงมากเช่นกัน และต้องเผชิญกับคราบสกปรกต่างๆมากมาย นอกจากนี้เมื่อพรมเลอะคราบต่างๆ มักจะฝังแน่นจนทำความสะอาดไม่ได้ และจำเป็นต้องใช้พรมทั้งแบบนั้นซึ่งไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่พรมจะหมดความสวยไป หรือไม่ก็อาจจะต้องตัดทิ้งแล้วซื้อพรมใหม่ทำให้เปลืองเงินอีก แต่ไม่ต้องกังวลครับเรามีวิธีขจัดคราบสกปรกที่ติดพรมมาฝากกันเพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องทิ้งพรมไปให้เสียดาย วิธีขจัดคราบสกปรกบนพรมสวย ถ้าพรมเปื้อนหรือเลอะสิ่งที่มีความเหนียว เช่น มะเขือเทศ ให้นำกระดาษทิชชูอย่างหนาที่ดูดซับได้ดีมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใช้แปรงขนสัตว์แปรงไปมา จากนั้นจึงนำพรมไปล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกที หากพรมเลอะอาหารที่มีส่วนผสมของไขมันเช่นนมไอศกรีม ให้รีบใช้น้ำอุ่นและน้ำยาทำความสะอาด ทำความสะอาดที่รอยเปื้อนทันที แล้วจึงค่อยใช้นำยาขจัดคราบไขมันเช็ดอีกครั้ง แต่ถ้าพรมเลอะคราบหมากฝรั่งให้นำน้ำแข็งใส่ถุงพลาสติกแล้ววางไว้บนหมากฝรั่งที่ติดพรมอยู่ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และมาเช็คดูว่าหมากฝรั่งแข็งตัวหรือยัง ถ้าแข็งตัวแล้วจึงนำน้ำแข็งออกแล้วใช้แปรงขัดออก เพียงเท่านี้หมากฝรั่งก็จะไม่เหนียวหนืดติดไปทั่วพรมอี

เคล็ดลับการตกแต่งห้องนอนให้น่าอยู่น่านอน

ห้องนอนถือเป็นสถานที่สำคัญอีกสถานที่หนึ่งที่เราใช้อยู่เป็นประจำทุกค่ำคืนเพราะห้องนี้มีไว้สำหรับนอนตามชื่อนั่นแหละ และการนอนก็คือการพักผ่อนที่ดีที่สุดฉะนั้นห้องนอนจึงมีความสำคัญมาก เพราะถ้าเรานอนอยู่ในห้องนอนที่ไม่สบายหรืออากาศไม่ถ่ายเทการนอนหลับพักผ่อนของเราก็จะไม่เต็มที่ นอนหลับๆตื่นๆหรือหลับไม่สนิทนั่นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงนำเคล็ดลับการตกแต่งห้องนอนให้น่าอยู่น่านอนมากฝากกัน เคล็ดลับการตกแต่งห้องนอนให้น่าอยู่น่านอน 1 ถ้าอยากให้ห้องนอนดูโปร่งสบาย ควรทาสีห้องโดยเน้นสีอ่อนๆ เช่น สีครีม สีฟ้าอ่อน สีขาว เป็นต้น 2 ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งห้องด้วยโทนสีเข้มหรือสีดำ 3 ไม่ควรมีสิ่งของห้อยลงมาจากเพดาน แต่ให้ใช้สิ่งประดับเล็กๆน้อยๆมาประดับผนังห้อง หรืออาจหากรอบรูปสวยๆ มาติดประดับบริเวณหัวเตียงก็จะทำให้ห้องนอนดูดีมีลูกเล่นขึ้นมาได้ และติดไฟดาวไลท์บริเวณหัวเตียง เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับห้องนอนก็ทำให้ห้องนอนดูดีไปอีกแบบ 4 นอกจากนี้ไฟในห้องนอนควรเป็นไฟสีนวล เพราะเหมาะกับการนอนหลับพักผ่อนมากกว่าไฟสว่างจ้า 5 ส่วนผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ควรใช้พรมในการปูพื้นห้องนอนเพราะพรมเ

วิธีป้องกันตัวมอดไม่ให้มากัดกินข้าวสาร

โดยทั่วไปแล้วเรามักจะซื้อข้าวสารมาเก็บกักตุนไว้ทีละเยอะๆ ที่ละหลายๆกิโล บางบ้านอาจซื้อมาไว้เป็น ยี่สิบ สามสิบ หรือแม้แต่ห้าสิบกิโลก็แล้วแต่ หรือถึงแม้ไม่ได้ซื้อมาเยอะขนาดนั้นแต่ซื้อมาถุงใหญ่ที่มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตบ้างตามร้านทั่วไปบ้างซึ่งมีตั้งแต่ 5 กิโลไปจนถึงถุงละ 10 กิโลก็มี ที่เป็นอย่างนี้เพราะเราคนไทยคนเอเชียมักรับประทานข้าวกันทุกวันหรือรับประทานข้าวกันเป็นอาหารหลักก็ว่าได้ และเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องเทออกจากถุงอาจเก็บไว้ในถังข้าวสารบ้าง เมื่อเทข้าวสารออกจากถุงนำมาเก็บไว้ในถังข้าวสารแล้วปัญหาที่ตามมาก็คือ ข้าวสารที่เราเก็บไว้เพื่อจะหุงรับประทานเป็นอาหารของเรากลับกลายเป็นอาหารของตัวมอดไปด้วยโดยปริยาย ยิ่งถ้าข้าวสารไม่มีสารเคมีเจือปนด้วยแล้วล่ะก็เป็นที่ชื่นชอบของตัวมอดเลยทีเดียว เพราะพวกมันจะได้กลิ่นหอมจากข้าวสารแล้วจะไต่มาตามพื้น ฝาผนังจนเข้าไปอยู่ในถังข้าวสารในที่สุด เมื่อเข้าไปอยู่ในถังข้าวสารแล้วพวกตัวมอดดังกล่าวก็จะทำหน้าที่คุ้ยเขี่ยกัดกินข้าวสารจนข้าวสารยุ่ยเป็นขุยๆและมีกลิ่นทำให้เราต้องสูญเสียข้าวที่ซื้อมาให้ตัวมอดไปโดยปริยาย แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้ตัวมอดเข้ามาอยู่

ถั่วแดงสมุนไพรฤทธิ์เป็นกลาง

ถั่วแดงนอกจากจะเป็นอาหารที่นำมาทำเป็นของหวาน เช่นถั่วแดงบวชกะทิกินอร่อยได้แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าถั่วแดงยังมีสรรพคุณทางยาในฐานะสมุนไพรจีนฤทธิ์เย็นอีกด้วยดูประโยชน์ สรรพคุณของถั่วแดงและวิธีใช้และข้อห้ามได้ด้านล่างครับ สรรพคุณของถั่วแดง ถั่วแดงมีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวานมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ลมพิษ ดีซ่าน บวมน้ำ เหน็บชา บรรเทาอาการปวดข้อและบวม กำจัดหนอง แก้อาหารเป็นพิษ รักษาอาการลำไส้อักเสบหรือถ่ายเป็นเลือด วิธีใช้ถั่วแดง 1 บดถั่วแดง 70 เมล็ดให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำผึ้งและน้ำอุ่นคนให้เข้ากัน  ทาบริเวณที่เป็นคางทูม หรือต้มถั่วแดง 50 กรัม จนเปื่อยนุ่มแล้วกินให้ผลเช่นเดียวกัน 2 ต้มถั่วแดง 300 กรัมกับปลาคาร์ป จนถั่วเปื่อย กินทั้งเนื้อปลาและน้ำซุป รักษาอาการตับแข็ง  ท้องมาน กระดูกเคลื่อน และบำรุงม้าม 3 ต้มถั่วแดง 50 กรัมกับเปลือกฟักเขียว 50 กรัม ดื่มเฉพาะน้ำรักษาอาการบวมขณะตั้งครรภ์ 4 นำถั่วแดงมาบดผสมกับน้ำผึ้งทาบริเวณที่เป็นฝี ช่วยให้ฝียุบเร็วขึ้น ข้อควรระวังในการใช้ถั่วแดง ผู้ที่ปัสสาวะบ่อย ผอมแห้ง ปากแห้ง และเลือดน้อย ไม่ควรรับประทานถั่วแดง

วิธีปฐมพยาบาลเมื่อโดนปะการังไฟ

ปะการังไฟเป็นสัตว์ทะเลอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษ มีรูปร่างหลายแบบ ได้แก่แบบแผ่น แบบก้อน และแบบแขนง สามารถพบปะปนอยู่กับสัตว์อื่นๆในแนวปะการังทั่วไป หากสัมผัสกับปะการังไฟ จะทำให้เกิดรอยไหม้ บวมแดงปวดแสบบริเวณผิวหนังที่สัมผัส อาการคล้ายกับโดนแมงกะพรุน หากโดนปะการังไฟสามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้โดยการล้างแผลด้วยนำส้มสายชูหรือล้างด้วยอะลูมิเนียมซัลเฟตอีกครั้งหนึ่ง อย่าเอามือมาเช็ดหน้าหรือให้เข้าตาเด็ดขาด เพราะน้ำพิษจากปะการังไฟที่ยังเหลืออยู่จะทำให้เกิดระคายเคืองที่ใบหน้าได้ และถ้าหากมีอาการรุนแรงมากควรไปพบแพทย์โดยด่วน เคล็ดลับถัดไป ถั่วแดงสมุนไพรฤทธ์ิเป็นกลาง เคล็ดลับก่อนหน้า แบะตงสมุนไพรจีนฤทธ์ิเย็น

แบะตงสมุนไพรจีนฤทธิ์เย็น

แบะตงสมุนไพรจีนฤทธิ์เย็นอีกชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณทางยาอยู่มากมายหลายอย่างซึ่งควรศึกษาและนำมาใช้ให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ประโยชน์จากสมุนไพรชนิดนี้เต็มที่ดังนั้นมาดูสรรพคุณและวิธีใช้รวมถึงข้อควรระวังในการใช้แบะตงกันครับ สรรพคุณของแบะตง แบะตงมีฤทธิ์เย็น รสหวาน มีกลิ่นหอมอ่อนๆจึงใช้แก้ร้อนในกระหายน้ำและขับเสมหะ บรรเทาอาการคอแห้ง จมูกแห้ง ปากแห้ง แก้อาการนอนไม่หลับ หงุดหงิด กระสับกระส่าย แก้ไอจากวัณโรค หรือคออักเสบเรื้อรัง บำรุงผิวพรรณและสายตาช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย ลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ แก้ท้องผูก และเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิธีใช้แบะตง นำแบะตง 10 กรัมมาแช่ในน้ำร้อนดื่มเป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังสามารถนำแบะตงมาเป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลายประเภทอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผัด นึ่ง ตุ๋น เป็นต้น ข้อควรระวังในการใช้แบะตง 1 แบะตงที่ดีมีคุณภาพต้องมีสีเหลืองออกขาว รากอ้วนใหญ่ เนื้อนิ่ม รสหวาน กลิ่นหอม เคี้ยวแล้วต้องเหนียวติดฟัน 2 ผู้ที่มีอาการท้องเสีย อุจจาระเหลว ขี้หนาว ท้องอืดเฟ้อ และไอเนื่องจากเป็นหวัดไม่ควรกิน เคล็ดลับถัดไป วิธีปฐมพยาบาลเ