บทความ

เคล็ดลับสาวหุ่นสวย

ไม่ว่าคุณจะทำงานที่บ้าน หรือทำงานที่ไหนก็ตาม คุณสามารถมีเคล็ดลับที่ทำให้คุณมีหุ่นสวยอยู่สม่ำเสมอได้ 1 แต่งกายให้ทะมัดทะแมง อย่าแต่งตัวตามสบายจนมากเกินไป เพราะมันเป็นผลทำให้คุณ อยากพักผ่อนนานๆ ทุกครั้งที่คุณรู้สึกเมื่อยล้า 2 ทำตารางเวลาอย่างเคร่งครัด โดยก่อนเริ่มงาน ให้คุณทำตารางเวลา การทำงานไว้ล่วงหน้า ว่ากันตั้งแต่ เวลาเริ่มงาน รายละเอียดของงานอย่างคร่าวๆ รวมไปถึงเวลา พักรับประทานอาหารกลางวันและอาหารว่างด้วย 3 ทำรายการอาหารไว้ล่วงหน้า อย่างในกรณีที่คุณทำอาหารเอง ให้คุณจัดรายการอาหารไว้ และซื้อของมากักตุนไว้ให้พร้อม พร้อมทั้งคำนวณปริมาณ แคลอรีแต่ละมื้อไว้ด้วย 4 ออกไปหาเพื่อนบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ให้คุณได้เคลื่อนไหวร่างกาย จะได้ไม่รู้สึกขี้เกียจจนเกินไป เป็นการใช้พลังงานไม่สะสมไขมัน 5 ผ่อนคลายบ้าง เพราะถ้าหากคุณรู้สึกเมื่อยล้ากับการทำงาน ก็อยากให้คุณหยุดพักโดยการออกไปเดินยืดเส้นยืดสายทีสนามหน้าบ้าน สูดหายใจให้ลึกๆ บิดซ้ายบิดขวา แทนที่จะเข้าครัว เพราะคุณจะเลือกที่จะหาอาหารใส่ปาก ก็ทำให้คุณอ้วนได้นั่นเอง 6 ต้องเก็บอาหารให้ห่างไกลจากโต๊ะทำงาน ทั้งน

เคล็ดลับการลดน้ำหนักให้เห็นผลโดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

1 กินอาหารได้ตามปกติ แต่ต้องใช้พลังงานที่ได้รับให้หมด ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากเข้าไว้ และต้องมากกว่าพลังงานที่ได้รับจากการรับประทานอาหารด้วย 2 อดทนและทนอด กล่าวคือค่อยๆลดปริมาณให้น้อยลง และไม่ใช่ลดพรวดพราด และกินให้พออิ่มเท่านั้น 3 ตักอาหารทีละน้อย ตักข้าวใส่จานก็ควรตักแค่น้อยๆก่อน เพราะถ้าไม่อิ่มก็สามารถตักเพิ่มได้ แต่ถ้าอิ่มแล้วแต่ยังมีข้าวเหลือ ก็อาจจะเกิดอาการเสียดาย ต้องกินให้หมด ทำให้เป็นผลให้กลายเป็นคนอ้วนได้ เพราะคำว่าเสียดาย 4 ตั้งปณิธานให้มั่นและแน่วแน่ ท่องไว้ในใจเสมอ หากมีอาหารอยู่ใกล้ๆ ว่ากินแล้วอ้วน หุ่นไม่สวย หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สามารถให้ความอยากของคุณชะงักลงได้ 5 เปลี่ยนนิสัยการกินเสียใหม่ จากคนที่เคยกินจุบจิบ พยายามทานอาหารเป็นมื้อๆ กินอาหารให้หลากหลายด้วย จะได้ไม่เป็นโรคขาดสารอาหาร และเลิกเป็นพวกชอบชิม 6 หลีกห่างจากอาหารอันตราย เช่น อาหารไขมันสูง เช่น นม เนย เนื้อแดง เค้ก และขนมปัง 7 อย่ากินเมื่อเครียด อย่างสาวๆ บางรายที่เกิดอาการอกหักจะประชดตัวเองด้วยการกิน กินทุกอย่างที่ขวางหน้า นั่นแหละเขาเรียกว่าไม่รักตัวเอง เพราะแทนที่คนรัก

จะลดน้ำหนักต้องลดไขมันให้ได้

หากได้ทราบถึงกระบวนการที่ร่างกายสร้างและใช้ไขมันแล้วก็คงจะมองเห็นได้ว่าทำไมเราถึงได้อ้วน และจะลดความอ้วนได้อย่างไรหากอัตราที่เราได้รับพลังงานสูงมากกว่าที่เราใช้พลังงานแล้ว แน่นอนว่าย่อมมีพลังงานเหลือเก็บ ถ้าเก็บมากๆเข้า ไม่ช้าเราก็จะอ้วนเพราะสะสมไขมันไว้เยอะ วิธีที่จะคงน้ำหนักเพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีนั้น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าต้อง 1 กินอาหารให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมของกลูโคส ไขมันและโปรตีน 2 อย่ากินมากจนเกินไป คนส่วนใหญ่ได้รับพลังงาน 1,500 ถึง 2,000 แคลอรีต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว ยกเว้นว่าเราต้องทำงานใช้แรงมาก ก็ต้องได้รับพลังงานเพิ่มขึ้น 3 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แค่สัปดาห์ละ 3 วัน วันละครึ่งชั่วโมงก็ใช้ได้แล้ว อย่าออกจนหักโหมเดี๋ยวหัวใจจะวายก่อนที่น้ำหนักจะลด แค่การเดินติดต่อกันครึ่งชั่วโมงก็ได้ประโยชน์แล้วล่ะครับ กว่าที่เราจะอ้วนนั้นต้องใช้เวลาสะสมไขมันมาไม่ใช่น้อย บางทีเราเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าเราอ้วนแล้วจนกว่าจะมีใครมาทัก ดังนั้นการที่จะทำให้น้ำหนักลด ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนถึงหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางอย่างมาช่วย ซึ่งบางชนิดก็มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย บางอย่างก็

ยาลดความอ้วนมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?

ยาลดความอ้วนแทบทุกชนิด แท้จริงแล้วคือยาระงับอาการอยากอาหารซึ่งหมายความว่าอาจช่วยลดปริมาณอาหารได้ทางอ้อมเพราะไม่อยากกิน แต่เมื่อไหร่ที่หยุดยา น้ำหนักตัวคุณจะเพิ่มขึ้นตามปกติ และเป็นไปได้ที่จะมีผลข้างเคียงอีกด้วย และยาลดความอ้วนนั้น ระบาดไปทั่วไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นด้วย  น่าจะเป็นเพราะจำนวนร้านอาหารฟาสฟู้ดที่ไขมันสูงเพิ่มขึ้น บวกกับชีวิตประจำวันที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น รีโมตทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ซึ่งประหยัดเวลา และแน่นอนย่อมต้องประหยัดพลังงาน (อันเหลือล้น) ของเราด้วย ทำให้ร่างกายคนเราไม่เผาผลาญอาหาร การใช้ยาลดความอ้วน เป็นที่นิยมมากแต่ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะส่วนใหญ่รับประทานเข้าไปแล้วจะไปออกฤทธิ์กดประสาท ส่วนที่ควบคุมความหิวในสมองส่วนกลางทำให้ไม่อยากอาหาร โดยตัวยา จริงๆแล้วไม่ได้ทำให้ผอมได้ ดังนั้น ส่วนใหญ่การใช้ยา จึงใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย ซึ่งการใช้ยาส่วนใหญ่จะได้ผลในระยะสั้นเพียง 4-6 สัปดาห์ และไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น โดยต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของแพทย์ หลังจากนั้นมักจะไม่ได้ผล ซ้ำจะเกิดอาการดื้

กล้วยน้ำว้า กับการลดความอ้วน

จริงๆแล้ว คุณสมบัติของกล้วยนั้น ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์สำหรับร่างกายนานัปการ และสามารถกินได้ตั้งแต่ดิบจนถึงสุกเลยทีเดียวเชียวล่ะ อย่างกล้วยดิบก็สามารถแก้ท้องอืด ท้องขึ้น ส่วนกล้วยสุกก็เป็นยาระบาย เพราะฉะนั้นใครท้องผูกล่ะก็เลือกกล้วยมารับประทานสัก 2-3 ผลก็จะถ่ายคล่องแน่นอน นอกจากนี้กล้วยยังมีไฟเบอร์ (เส้นใยกากอาหาร) ซึ่งมีผลต่อการลดคอเรสเตอรอลในเลือด ลดการเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง รวมทั้งโรคหัวใจและโรคเบาหวานอีกด้วยและที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทำให้ห่างจากโรคอ้วนซึ่งสาวๆไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย  เพราะการกินกล้วยนั้นจะทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน ความอยากอาหารจะน้อยลง เพราะไฟเบอร์ที่ละลายจะไปเคลือบผิวกระเพาะและทำปฏิกริยากับกรดทำให้เกิดสารเจลาติน และกล้วยก็ยังมีสารอาหารจำเป็นแก่ร่างกายทั้งวิตามินและเกลือแร่อีกด้วย เพราะฉะนั้นคงจะเป็นเรื่องดี ถ้าเรารับประทานกล้วยน้ำว้าทุกวัน เคล็ดลับถัดไป ยาลดความอ้วนมีประโยชน์หรือโทษกันแน่? เคล็ดลับก่อนหน้า 11 เทคนิคการกินเพื่อหุ่นสวยดูดีและสุขภาพแข็งแรง

11 เทคนิคการกินเพื่อหุ่นสวยดูดีและสุขภาพแข็งแรง

1 เน้นอาหารที่มื้อเช้า ส่วนมื้อกลางวันก็อยู่ในปริมาณที่พอดี สำหรับมื้อเย็น ควรเป็นอาหารที่มีแคลอรี่น้อย ที่สุด เพราะในช่วงที่ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดี ก็คือช่วงที่เราต้องใช้พลังงานเยอะๆ นั่นก็คือ ช่วงเช้าและกลางวัน 2 ทานอาหารประเภทของมันๆ เฉพาะนอกบ้านเท่านั้นเพื่อเป็นการจำกัดปริมาณในการกิน เพราะถ้าคุณทำอาหารประเภทมัน ของทอด ที่ทำให้สะสมไขมันอย่างหนัก ไว้ในมื้อประจำของคุณมีหวังไม่กี่วันความอ้วนถามหาแน่นอน 3 เลือกไปทานอาหารนอกบ้าน ด้วยมื้อกลางวัน แทนที่จะเป็นมื้อเย็น และพยายามนัดเวลาให้บ่ายสักหน่อย เพื่อที่ว่าในเวลามื้อเย็นคุณจะได้ไม่หิวมาก ทำให้กินอาหารได้ปริมาณน้อย 4 เลือกกินแต่อาหารดีมีประโยชน์เท่านั้น 5 ดื่มน้ำมากๆโดยเฉพาะน้ำเปล่า และอาจดื่มน้ำขิง เพราะมีประโยชน์ต่อร่างกาย และการดื่มน้ำนี่ก็เพื่อไม่ให้ปากว่าง ไม่ต้องไปหาของขบเคี้ยวอื่นๆ มารับประทาน 6 นำผักผลไม้ตามฤดูกาลมาหั่นแช่ตู้เย็นไว้ เพื่อเป็นของทานเล่น เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้ว ยังให้วิตามินกับร่างกายอีกด้วย 7 ไม่ตุนของขบเคี้ยวไว้ที่บ้าน ถ้าอยากกินก็ไปซื้อมาแค่พอหายอยากเท่

ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก

อย่าไปเชื่อที่คนเขาว่า น้ำหนักที่หายไปจากการไดเอ็ทจะไม่กลับมาอีก ถ้าคุณเชื่อตามนี้ โอกาสที่จะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้กลับมามีนิสัยการกินแบบเดิมก็มีสูงมาก และ อีกความเชื่อที่ผิดคือคุณสามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 1 เดือน   ในความเป็นจริงน้ำหนักจะลดได้อย่างเหมาะสมประมาณ 1 กิโลกรัม ใน 1 เดือนเท่านั้น อย่างไรก็ตามคุณสามารถกินอาหารที่มีน้ำตาลพอเหมาะได้ แต่ต้องไม่หวานมากเกินไป ลองหันมากินผลไม้แทน และอย่าสวาปามอาหารที่ยี่ห้อบอกว่าปลอดไขมันมากเกินไป ด้วยความชะล่าใจควรตรวจดูส่วนประกอบที่ฉลากก่อนเสมอ เคล็ดลับถัดไป 11 เทคนิกการกินเพื่อหุ่นสวยดูดีและสุขภาพแข็งแรง เคล็ดลับก่อนหน้า วิธีลดความอ้วนอย่างง่ายและได้ผล