ยาลดความอ้วนมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?

ยาลดความอ้วนแทบทุกชนิด แท้จริงแล้วคือยาระงับอาการอยากอาหารซึ่งหมายความว่าอาจช่วยลดปริมาณอาหารได้ทางอ้อมเพราะไม่อยากกิน แต่เมื่อไหร่ที่หยุดยา น้ำหนักตัวคุณจะเพิ่มขึ้นตามปกติ และเป็นไปได้ที่จะมีผลข้างเคียงอีกด้วย และยาลดความอ้วนนั้น ระบาดไปทั่วไม่ใช่แค่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นด้วย  น่าจะเป็นเพราะจำนวนร้านอาหารฟาสฟู้ดที่ไขมันสูงเพิ่มขึ้น บวกกับชีวิตประจำวันที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น รีโมตทีวี เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ซึ่งประหยัดเวลา และแน่นอนย่อมต้องประหยัดพลังงาน (อันเหลือล้น) ของเราด้วย ทำให้ร่างกายคนเราไม่เผาผลาญอาหาร

การใช้ยาลดความอ้วน

เป็นที่นิยมมากแต่ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะส่วนใหญ่รับประทานเข้าไปแล้วจะไปออกฤทธิ์กดประสาท ส่วนที่ควบคุมความหิวในสมองส่วนกลางทำให้ไม่อยากอาหาร โดยตัวยา จริงๆแล้วไม่ได้ทำให้ผอมได้ ดังนั้น ส่วนใหญ่การใช้ยา จึงใช้ร่วมกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย ซึ่งการใช้ยาส่วนใหญ่จะได้ผลในระยะสั้นเพียง 4-6 สัปดาห์ และไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น โดยต้องอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของแพทย์

หลังจากนั้นมักจะไม่ได้ผล ซ้ำจะเกิดอาการดื้อยา และจะมีอาการข้างเคียงตามมาเสมอ เนื่องจากยาส่วนใหญ่ผลิตจากอนุพันธ์ของแอมเฟตามีน มักจะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ มือสั่นใจสั่น เต้นเร็ว ปวดศีรษะ หงุดหงิด ปากแห้ง เหงื่อออกประสาทหลอน ความดันโลหิตสูง หัวใจขาดเลือด ปัสสาวะเป็นสีม่วงหรือคุ้นเคยกับ ฉี่สีม่วง นั่นเอง และอาจติดยาได้ในที่สุด 

เคล็ดลับถัดไป

เคล็ดลับก่อนหน้า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีแก้อาการปวดแสบร้อนเมื่อพริกเข้าตา

วิธีแก้ยางขนุนติดมือ

วิธีป้องกันและรักษาสิวบนแผ่นหลัง