บทความ

สูตรทำน้ำตะไคร้

ส่วนผสม ตะไคร้สด 400 กรัม น้ำเปล่าสะอาด 8 ถ้วยตวง น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง วิธีทำ 1 นำตะไคร้มาหั่นเป็นท่อนๆต้มในน้ำเดือด 5 นาทีแล้วยกลง 2 เติมน้ำตาลทรายลงในน้ำตะไคร้ คนให้ละลายสามารถดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เคล็ดลับถัดไป สูตรทำกะปิจากกุ้งเคย เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรทำแหนมเนื้อ

สูตรทำแหนมเนื้อ

ส่วนผสม เนื้อวัว 5 กิโลกรัม เกลือป่น 200 กรัม กระเทียมบดหรือตำ 200 กรัม ข้าวเหนียวนึ่งสุก 200 กรัม ผงชูรส 20 กรัม วิธีทำ 1 นำเนื้อไปสับๆ หรือบด นำกระเทียมและข้าวนึ่งสุก ถ้าไม่มีข้าวเหนียวนึ่งให้ใช้ข้าวสวยก็ได้ ใส่ลงไปในเนื้อ คลุกเคล้าให้เข้ากันและนวดจนเนื้อสามารถปั้นเป็นก้อนได้ 2 ใส่พริกขี้หนูสดตามชอบ นำไปบรรจุใส่ไหหรือกระปุกปิดฝาให้สนิท หรือนำไปใส่ถุงมัดปากถุงให้แน่น หรือห่อด้วยใบตองกล้วยมัดให้แน่นตามชอบประมาณ 3-5 วัน (แล้วแต่สภาพอากาศ ถ้าอากาศร้อนจะเปรี้ยวเร็ว อากาศหนาวจะเปรี้ยวช้า) เนื้อจะเกิดอาการเปรี้ยวแล้วนำเข้าเก็บในตู้เย็นเพื่อไว้รับประทานหรือนำไปทอดก่อนรับประทาน ข้อควรจำ การทำแหนมเนื้อควรล้างภาชนะและมือให้สะอาดและไม่ให้แมลงวันตอมเด็ดขาด เคล็ดลับถัดไป สูตรทำน้ำตะไคร้ เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรทำกระเทียมดอง

สูตรทำกระเทียมดอง

กระเทียมเป็นพืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่าหัว ที่แบ่งเป็นกลีบย่อยหลายกลีบติดกัน เปลือกนอกสีขาว เนื้อในสีเหลืองอ่อนๆ คุณสมบัติพิเศษที่ดีของกระเทียมคือจะมีกลิ่นฉุนจัด แถมรสชาติยังเผ็ดร้อน เผ็ดลึก เรียกว่า แสบลิ้นทำเอาน้ำหูน้ำตาไหลได้เลยทีเดียว สรรพคุณของกระเทียมมีมากมาย นอกจากประกอบอาหารแล้วในทางสมุนไพรนำไปทำยาได้อีกด้วย เช่น เมื่อผสมกับขิงใช้แก้เสมหะ แก้ลม ฟกช้ำ แก้ท้องอืด กระจายโลหิต หากนำไปผสมกับยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเพลิง มะเร็งคุก ผสมยาแก้ไอ แก้จุกเสียด และรักษาโรคลมบ้าหมู เมื่อนำไปผสมน้ำนมหรือกะทิสด กินขับพยาธิเส้นด้าย หากใครบริโภคกระเทียมสด คงจะให้ความรู้สึกที่ยากลำบากรับประทานยากมากแต่เมื่อนำมาทำเป็น กระเทียมดอง ก็บริโภคได้ง่ายขึ้นและเชื่อกันว่า หากรับประทานกระเทียมในปริมาณ 2-3 หัว ต่อวัน จะช่วยผู้ป่วยเกี่ยวกับเส้นเลือดในการลดปริมาณคอเลสเตอรอลได้ สูตรการทำกระเทียมดอง สำหรับท่านที่สนใจนำไปทดลองทำรับประทานเอง หรือหากมีกระเทียมอยู่ที่บ้านเป็นจำนวนมากก็อาจจะขยับขยายทำเพื่อจำหน่ายก็ได้ ด้วยสูตรง่ายๆไม่ยุ่งยากมากนักดังนี้ ให้ต้มน้ำปรุงรสก่อน โดยนำกระเทียมสด 12 กิโล

วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอก

ก่อนที่จะไปถึงวิธีการทำน้ำข้าวกล้องงอก เรามาดูประโยชน์ของข้าวกล้องงอกกันก่อน ประโยชน์ที่ได้จากการรับประทานข้าวกล้องงอกนั้น นอกจากจะเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากสารกาบา ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้สมองผ่อนคลาย ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ บำรุงระบบประสาท หรือลดความดันโลหิตแล้ว การรับประทานข้าวกล้องงอกยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยให้สมองผ่อนคลาย นอนหลับสบายและช่วยควบคุมน้ำหนักตัวด้วย แถมยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ไม่ให้แก่ก่อนวัยอีกด้วย (สาวๆต้องฟังไว้) ถือได้ว่าแค่รับประทานข้าวกล้องงอกนั้น ก็ครบถ้วนไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกายทั้งสิ้น ผู้ที่ไม่ควรทานข้าวกล้องงอก แม้ว่าสารต่างๆในข้าวกล้องงอกล้วนมีประโยชน์อยู่มากมาย ดังนั้นข้าวกล้องงอกจึงมีประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัย ยกเว้นกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ ที่ไม่ควรรับประทาน เพราะเมล็ดข้าวกล้อง หรือยอดผักต่างๆที่กำลังจะงอก จะมีสารยูริคจำนวนมากดังนั้นจึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคเกาต์ซึ่งเป็นโรคเกิดจากการที่มีสารยูริคจำนวนมากสะสมอยู่ตามข้อ จนเกิดการอับเสบนั่นเอง วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอก 1 คัดเลือกข้าวกล้อง โ

สูตรทำซอสมะเขือเทศ

ส่วนผสม มะเขือเทศสุก 1 ½ กิโลกรัม พริกไทยป่น ½ ช้อนชา น้ำส้มสายชู ½ ช้อนโต๊ะ กานพลู 5 ดอก หอมใหญ่ ½ หัว น้ำตาลทราย ¼ ถ้วยตวง อบเชย 1 ชิ้น กระเทียมสับ 1 หัว เกลือป่นเล็กน้อย วิธีทำ 1 เอามะเขือเทศมาล้างให้สะอาด แล้วสับให้เป็นชิ้นเล็กๆผสมกับหอมหัวใหญ่สับให้ละเอียด 2 ตั้งไฟเคี่ยวจนนุ่ม เมื่อเย็นได้ที่แล้วปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่เนื้อส่วนกากที่เหลือเททิ้งไป 3 นำเนื้อที่กรองแล้วไปเคี่ยวให้งวด แล้วโรยพริกไทยป่น น้ำส้มสายชู ส่วนเครื่องเทศต้องห่อผ้าก่อนแล้วค่อยลงต้ม เติมน้ำตาลทราย เกลือ ขณะที่ยังร้อนอยู่แล้วใส่ขวดปิดฝา ขณะที่ยังร้อนอยู่ เป็นอันเสร็จสิ้นการทำซอสมะเขือเทศไว้ทานเอง หรือหากอยากทำขายก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องมีวัตถุดิบเช่น มะเขือเทศที่มีราคาถูกมากๆหรือถ้ามีสวนมะเขือเทศเองก็ยิ่งดี เพราะซอสมะเขือเทศไม่เหมือนกับซอสพริกที่เขาเติมมะละกอสุกลงไปเพื่อเพิ่มปริมาณได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวัตถุดิบเป็นจำนวนมากและสดใหม่ เคล็ดลับถัดไป วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอก เคล็ดลับก่อนหน้า สูตรทำน้ำส้มสายชูหมัก

สูตรทำน้ำส้มสายชูหมัก

ในปัจจุบัน โดยทั่วไปก็จะมีเพียงน้ำส้มสายชูกลั่น เป็นน้ำใสๆสีขาวและมีไม่กี่ยี่ห้อที่เป็นที่ยอมรับ แต่ในต่างประเทศมีน้ำส้มสายชูมากมายหลายชนิดและมีหลายสีแล้วยังทำจากวัตถุดิบหลายอย่าง สูตรในการทำน้ำส้มสายชูในต่างประเทศเขาจะเก็บเป็นความลับของตระกูลเลยทีเดียว บางคนก็ใช้วัตถุดิบชนิดเดียวกันแต่ได้น้ำส้มสายชูที่ต่างกันทั้งสี กลิ่น รส บางครอบครัวทำเป็นอุตสาหกรรมเล็กๆในครัวเรือนแต่มียอดการสั่งซื้อไม่น้อยเลย บางคนก็ทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ส่งออกกันเป็นเรื่องเป็นราวนั้นก็เพราะความแปลกใหม่ของน้ำส้มสายชู ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นสูตรการทำน้ำส้มสายชู แบบไทยๆซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของคนสมัยก่อน หากอยากนำไปดัดแปลงหรือลองทำดูก็ได้เป็นการแปรรูป พืชผักผลไม้ให้เป็นประโยชน์เป็นการเพิ่มมูลค่า การทำน้ำส้มสายชูนั้น สามารถทำได้จากวัตถุดิบหลายอย่าง เช่น ข้าว องุ่น แอปเปิ้ล ผลไม้รวม มะพร้าว ปาล์ม ลูกเกด น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำสัปปะรด นอกจากนี้ยังสามารถใช้วัตถุดิบอื่นๆได้อีกนอกเหนือจากที่กล่าวด้านบน มาดูวิธีทำน้ำส้มสายชูหมักดังต่อไปนี้ครับ น้ำส้มสายชูจากน้ำอ้อย ส่วนผสม น้ำอ้อย 1 ส่วน น้ำเปล่

สูตรทำมะม่วงกวน

มะม่วงกวนเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งที่มีมาแต่โบราณเมื่อครั้งก่อนนั้นทำมะม่วงกวนจากมะม่วงที่สุกแล้วกินไม่ทัน หรือมะม่วงที่หล่นปากตะกร้อ กวนเก็บไว้ให้ลูกหลานกินยามมะม่วงหมดผลแล้ว แต่ในปัจจุบันนี้การทำมะม่วงกวนเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนที่นับว่ามีความสำคัญและสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ว่างจากงานประจำหันมาทำมะม่วงกวนส่งออกขาย บางรายก็ส่งไปขายถึงต่างประเทศนับว่าเป็นการสร้างรายได้ที่ดีทีเดียว ส่วนผสม มะม่วงชนิดต่างๆ น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายกรวด สารส้ม เกลือป่น น้ำเปล่า วิธีทำ 1 เริ่มตั้งแต่นำมะม่วงแก้วที่สุกพอเหลืองๆปอกเปลือกแล้วแช่ลงในน้ำสารส้มที่เตรียมไว้ประมาณ 3-5 นาที 2 ตักมะม่วงขึ้นมาจากน้ำพร้อมที่จะสับ วิธีการสับก็สำคัญเช่นกันเพราะจะต้องสับให้เส้นสวยไม่ให้เล็กหรือใหญ่เกินไป เมื่อสับเสร็จพอ 1 กระทะ นำลงใส่กระทะพร้อมน้ำตาลทราย น้ำตาลทรายกรวดใส่น้ำไม่มากนักกวนไปเรื่อยๆใช้เวลากวนประมาณ 1-2 ชั่วโมง 3 ระหว่างกวนได้สักครึ่งชั่วโมงนำสารส้มใส่ลงไปประมาณก้อนเท่านิ้วหัวแม่มือ ใส่สารส้มเพื่อจะทำให้มะม่วงกวนสวยใส 4 อีกประการหนึ่งคือมะม่วงที่ใช้ควรจะเป็นมะม่วงแก้ว และถ้าสุกเกิ