บทความ

ยำปลาดุกฟู

ยำปลาดุกฟูเป็นเมนูหนึ่งที่ท่านสามารถทำรับประทานกันเองได้ในครอบครัวหรือกับเพื่อนฝูงที่รู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี บางวัน เช่นเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดงานอาจรู้สึกเบื่อๆไม่อยากออกไปไหนก็ลองทำเมนูยำปลาดุกฟูรับประทานกันก็ดีเหมือนกันครับ ดูเครื่องปรุงและวิธีทำได้ด้านล่างเลยครับ เครื่องปรุง ปลาดุกย่างตัวโต 1 ตัว น้ำมันพืช 3 ถ้วย ผักกาดหอม 4 ใบ มะม่วงดิบเปรี้ยวสับซอยเป็นเส้นๆ    ครึ่ง ถ้วย กุ้งแห้งป่น ครึ่ง ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาแท้ 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงปอดเปลืองหั่นบางๆ 3 หัว พริกขี้หนูสวนหั่นซอย 10 เม็ด วิธีปรุง นำปลาดุกย่างมาแล่เอาก้างออกให้หมดแล้วใช้ส้อมแกะตะกุยเนื้อปลาให้เป็นปุยๆโดยให้คงรูปอยู่อย่าให้กระจัดกระจายจนเละ เสร็จแล้วนำกะทะตั้งบนเตาไฟ เทน้ำมันพืชที่เตรียมไว้ลงไปในกะทะ ใช้ไฟปานกลางก็พอแล้วอย่าเร่งไฟมากเพราะปลาจะไหม้หมด พอน้ำมันร้อนได้ที่ก็นำปลาดุกย่างที่ตะกุยเนื้อจนเป็นปุยลงทอดในกะทะทันที จนเนื้อปลาดุกฟูแผ่ออกเป็นปุยขาวๆพองขึ้นมา เมื่อเนื้อปลากรอบเหลืองได้ที่ก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน เมื่อสะเด็ดน้ำมันแล้วก็นำใส่จานที่วางผักกาดรองไว้ด้านล่า

การใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านป้องกันและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล

โดยปกติชาวนาจะใช้สารเคมีฉีดพ่นในนาข้าวเพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แต่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเกาะอาศัยอยู่บริเวณโคนต้นข้าวหรือกอข้าวเหนือระดับน้ำในนาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้สารเคมีที่ถูกพ่นลงไปไม่อาจไปถึงตัวเพลี้ยชนิดนี้ได้ แต่การอาศัยเกาะที่บริเวณดังกล่าวของเพลี้ยกระโดดเสียน้ำตาลก็เป็นจุดอ่อนของตัวมันเองเช่นกันเพราะปลากินแมลงสามารถจู่โจมจากในน้ำมากินเพลี้ยดังกล่าวได้ ดังนั้นบทความครั้งนี้จะกล่าวถึงการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลด้วยวงจรชีวิตตามธรรมชาติดูรายละเอียดได้ดังนี้ครับ มีปลาหลายชนิดที่สามารถกระโดดหรือใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเพราะปลาเหล่านี้ เช่น ปลาเสือ ปลาตะเพียนจะกินเพลี้ยชนิดดังกล่าวเป็นอาหารอยู่แล้ว อย่างปลาเสือจะใช้วิธีพ่นน้ำใส่ตัวเพลี้ยที่เกาะกอข้าวให้ตกน้ำแล้วจะเข้ามาตอดกินเพลี้ยเป็นอาหาร แต่ปลาชนิดนี้ไม่ค่อยมีแล้วในธรรมชาติของไทยเรา แต่ยังมีปลาตะเพียนที่สามารถหามาเลี้ยงได้อยู่ นอกจากช่วยกำจัดเพลี้ยสีน้ำตาลแล้วปลาตะเพียนยังกินหญ้าจอก แหนและวัชพืชน้ำชนิดอื่นไม่ให้นารกเกินไปถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้ ปลาตะเพียนจะกินเพลี

วิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

การนอนหลับคือการพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ดีที่สุด เพราะเมื่อเรานอนหลับร่างกายเราไม่ขยับเขยื้อนออกแรงมากนั่นหมายถึงร่างกายทุกส่วนได้ผ่อนคลายและได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ส่วนในเรื่องของจิตใจก็พลอยได้รับผลดีไปด้วยเพราะไม่ต้องคิดอะไรให้ฟุ้งซ่านปวดหัวเหมือนตอนตื่นอยู่ ฉะนั้นอย่ามองเรื่องการนอนหลับเป็นแค่เรื่องผิวเผินธรรมดาๆที่คิดว่าจะนอนตอนไหนก็ได้หรือจะนอนสักหน่อยก็พอและยิ่งถ้าท่านนอนดึกหรืออดนอนสะสมเป็นเวลานานๆหลายวันจะทำให้ร่างกายท่านอ่อนล้าและโรคภัยไข้เจ็บจะแวะเวียนมาถามหาเอาได้ครับ สำหรับคนที่นอนไม่ค่อยหลับหรือหลับยากมาดูวิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นครับ วิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น 1 พยายามออกกำลังกายตอนเย็นเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายโดยเฉพาะในตอนเย็นจะทำให้ร่างกายเหนื่อยเพลียและเป็นเวลาที่ใกล้ค่ำไม่นานก็จะถึงเวลานอนจะทำให้ท่านสามารถนอนหลับได้โดยไม่ดึกเกินไปคือประมาณเวลาสี่ทุ่มไม่เกินห้าทุ่มกำลังดี เพราะเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่อวัยวะต่างๆทั้งภายนอกและภายในร่างกายต้องการพักผ่อนแล้ว 2 ให้ดื่มนมอุ่นหรือชาอุ่นๆก่อนเข้านอนจะช่วยให้หลับง่ายขึ้น 3 ให้รับประทานอาหารเย็นหร

วิธีแก้ปัญหาความทุกข์ใจ

ความทุกข์ใจสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ตลอดเวลาเมื่อรู้สึกไม่สบายใจหรือเกิดความทุกข์ใจขึ้นในจิตใจ ซึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราย่อมเจอะเจอกับเรื่องราวต่างๆมากมายหลากหลาย การแก้ปัญหาความเครียดที่เกิดจากความทุกข์ใจนี้สามารถแก้ได้หลายวิธี หากท่านกำลังเผชิญกับปัญหาความทุกข์ใจจนเกิดความเครียด วิธีต่างๆเหล่านี้อาจช่วยท่านผ่อนคลายความเครียดลงได้ วิธีแก้ปัญหาความทุกข์ใจ 1 พยายามพูดคุยกับเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่ไว้ใจได้อย่างเปิดเผยว่าเรามีความรู้สึกอย่างไร อาจร้องไห้เพื่อระบายความเครียดที่อยู่ในใจออกมากแล้วให้ใช้เหตุผลไตร่ตรองเพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่าใช้อารมณ์และความรู้สึกอย่างเดียว 2 พยายามหางานหรืออะไรทำตลอดเวลาอย่าปล่อยให้ตัวเองมีเวลาว่างเพื่อกลับไปคิดถึงเรื่องเดิมๆที่ทำให้ทุกข์ใจอีก หากไม่มีอะไรทำจริงๆก็ให้หางานอดิเรกทำซึ่งมีอยู่มากมายเช่น อาจไปเรียนอบรมวิชาชีพฟรีหรือเสียค่าใช้จ่ายไม่แพงที่ทางราชการจัดขึ้นเสาร์อาทิตย์ก็ได้ กิจกรรมวิชาชีพเหล่านี้มักจัดขึ้นตามมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนในชุมชนในวันเสาร์อาทิตย์ ใกล้ที่ไหนก็ให้ไปเรียนที่นั่น หรือทำงานให้มากขึ้นจะได้ประ

50 วิธีทดสอบความเครียด

บางครั้งความเครียดเข้าจู่โจมเราโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวหรือบางทีอาจกล่าวได้ว่าคนเราบางคนอาจสะสมความเครียดมาเป็นเวลานานโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวหรืออาจจะรู้ตัวนั่นแหละว่าเครียดอยู่ ณ ช่วงเวลาหนึ่งแต่มักปล่อยปละละเลยไม่สนใจว่าตัวเองเครียด ซึ่งสถานการณ์อันนี้ต่างกับการที่เราพยายามลืมเพื่อไม่ให้เครียดซึ่งเป็นสิ่งที่ดีหากทำได้ แต่ที่จะกล่าวถึงและเป็นกังวลก็คือเรารู้ว่าเราเครียดแต่กลับอนุญาตให้ความเครียดอยู่อย่างนั้นซึ่งนานวันเข้าทำให้ความเครียดสะสมเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพกายและใจ ฉะนั้นเรามาดูวิธีทดสอบความเครียดโดยการถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเองดูว่าท่านเป็นอย่าง 50  ข้อข้างล่างหรือไม่ถ้าเป็นแบบนั้นเป็นกี่ข้อ และดูบทสรุปด้านล่างว่าจำนวนคำตอบที่ใช่กี่ข้อแสดงว่าท่านนั้นตกอยู่ในภาวะความเครียดซึ่งควรได้รับการเยียวยาได้แล้ว เชิญท่านทำแบบทดสอบได้ดังต่อไปนี้ครับ 50 วิธีทดสอบความเครียด 1 คุณนอนไม่ค่อยหลับใช่หรือไม่? 2 กินอาหารมากผิดปกติหรือในทางตรงกันข้ามกินไม่ลงใช่หรือไม่? 3 ปวดศีรษะบ่อยๆใช่หรือไม่ ? 4 เผลอกัดเล็บ แกะเกาศีรษะ รวมทั้งเขย่าขาตลอดเวลาใช่หรือไม่ ? 5 มัก

วิธีฝึกลูกไม่ให้เป็นเด็กเกเร

เด็กที่เกะกะเกเรย่อมไม่เป็นที่ต้องการของใครๆ ทั้งพ่อแม่ คุณครูและเพื่อนๆในวัยเดียวกันต่างก็เอือมระอาไปตามๆกัน ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่ก็จะพาลไม่ชอบหรือเกลียดชังเด็กคนนั้นไปเลยแต่หัวอกคนเป็นพ่อแม่จะทำอย่างไรได้ถึงลูกเกเรอย่างไรและทั้งๆที่ไม่ชอบก็ตัดความสัมพันธ์กันไม่ขาดอยู่ดีเพราะเป็นลูกของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูอยู่ รวมทั้งมีความผูกพันทางสายเลือด จึงเหมือนว่าทุกข์หนักเลยต้องมาตกอยู่กับพ่อแม่ไปโดยปริยาย เด็กที่มีนิสัยเกเรชอบแกล้งเพื่อนในวัยเดียวกันจนสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อนๆด้วยกันมักจะเป็นเด็กที่อยู่ในวัยเรียนอนุบาล เด็กเหล่านี้มักแกล้งเพื่อนๆ แย่งของเล่นของเพื่อนๆ จนเป็นที่รังเกียจของเพื่อนฝูงและครู   วิธีแก้ก็คือพ่อแม่อย่าเพิ่งดุว่าลูกจนเกินไปเพราะเด็กในวัยดังกล่าวยังไม่รับรู้คำสอนหรือคำดุด่าว่ากล่าวแบบตรงๆ เนื่องจากเด็กยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกดุถูกว่า พ่อแม่ควรจะแทรกคำสอนเพื่อให้เด็กฟังแล้วเข้าใจง่าย เช่น อาจหยิบยกตัวอย่างจากนิทานหรือเล่านิทานให้ฟังเมื่อมีเวลาว่าง อาจจะเป็นนิทานที่มีคติสอนใจที่มีทั้งตัวละครประพฤติตนดีและไม่ดีแล้วมีผลลัพธ์อย่างไรกับตัวละ

การป้องกันหอยเชอรี่กัดทำลายข้าวในนาโดยภูมิปัญญาชาวบ้าน

หอยเชอรี่ ชื่อฟังแล้วอาจจะดูดีน่ารักแต่สำหรับชาวนาแล้วรู้สึกว่าหอยชนิดนี้ทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย ตรงกันข้ามกลับทำตัวเกะกะเกเรเพราะชอบกัดกินต้นข้าวของชาวนาเสียหายมานักต่อนักแล้ว หอยเชอรี่จะชอบกัดกินต้นกล้าหรือต้นข้าวที่ปักดำใหม่ๆไปจนกระทั่งต้นข้าวแตกกอโดยเฉพาะต้นข้าวในระยะต้นกล้าที่มีอายุ 10 วันมากที่สุด มันจะเริ่มกัดจากโคนต้นที่อยู่ใต้น้ำเหนือจากพื้นดินและจะกัดกินขึ้นมาจนถึงส่วนใบที่อยู่เหนือน้ำจนหมดโดยใช้เวลากัดกินทั้งต้นทั้งใบ 1 ถึง 2 นาทีเท่านั้น แม้ว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาหอยเชอรี่กัดกินต้นข้าวกันไปต่างๆนาๆแต่ในที่นี้เราขอนำเสนอภูมิปัญญาชาวบ้านที่ไม่มีสารพิษตกค้างหลงเหลืออยู่ในนาข้าวเลย วิธีที่จะกล่าวถึงก็คือการนำ พญาไร้ใบซึ่งมีลักษณะเป็นพรรณไม้เถาไม่มีใบสูงประมาณ 7-10 เมตรโดยมีกิ่งก้านเป็นข้อๆ แต่ละข้อยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตรมีสีเขียวและมีน้ำยางเป็นสีขาวจะออกดอกเป็นกระจุกมีสีขาวอมเขียว ดอกจะออกตรงข้อและตรงปลายกิ่งส่วนเมล็ดหรือผลจะเป็นฝักมีความยาวประมาณ 10-12 และเมล็ดจะมีลักษณะเป็นรูปไข่แบนยาวประมาณ 4-5 มิลลิ เมตร อย่างไรก็ตามพืชชนิดนี้ ในบางพื้นที่อาจเรียกแตกต่างกัน เช่น ท