การใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านป้องกันและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล

โดยปกติชาวนาจะใช้สารเคมีฉีดพ่นในนาข้าวเพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล แต่เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจะเกาะอาศัยอยู่บริเวณโคนต้นข้าวหรือกอข้าวเหนือระดับน้ำในนาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นทำให้สารเคมีที่ถูกพ่นลงไปไม่อาจไปถึงตัวเพลี้ยชนิดนี้ได้ แต่การอาศัยเกาะที่บริเวณดังกล่าวของเพลี้ยกระโดดเสียน้ำตาลก็เป็นจุดอ่อนของตัวมันเองเช่นกันเพราะปลากินแมลงสามารถจู่โจมจากในน้ำมากินเพลี้ยดังกล่าวได้ ดังนั้นบทความครั้งนี้จะกล่าวถึงการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลด้วยวงจรชีวิตตามธรรมชาติดูรายละเอียดได้ดังนี้ครับ

มีปลาหลายชนิดที่สามารถกระโดดหรือใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเพราะปลาเหล่านี้ เช่น ปลาเสือ ปลาตะเพียนจะกินเพลี้ยชนิดดังกล่าวเป็นอาหารอยู่แล้ว อย่างปลาเสือจะใช้วิธีพ่นน้ำใส่ตัวเพลี้ยที่เกาะกอข้าวให้ตกน้ำแล้วจะเข้ามาตอดกินเพลี้ยเป็นอาหาร แต่ปลาชนิดนี้ไม่ค่อยมีแล้วในธรรมชาติของไทยเรา แต่ยังมีปลาตะเพียนที่สามารถหามาเลี้ยงได้อยู่ นอกจากช่วยกำจัดเพลี้ยสีน้ำตาลแล้วปลาตะเพียนยังกินหญ้าจอก แหนและวัชพืชน้ำชนิดอื่นไม่ให้นารกเกินไปถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยก็ว่าได้ ปลาตะเพียนจะกินเพลี้ยโดยวิธีเล็งอยู่ใต้น้ำแล้วกระโดดขึ้นงับเพลี้ยแถวโคนต้นข้าว ถ้าจะให้ได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นในการควบคุมเพลี้ยชนิดนี้ก็ให้ทำบ่อปลาเล็กๆไว้ที่หัวมุมนาและติดไฟแบล็คไลท์ไว้ตรงจุดนี้ด้วยเพื่อช่วยล่อแมลงที่บินว่อนให้มาเล่นไฟแล้วตกลงในน้ำให้ปลาตะเพียนกินเป็นอาหาร และถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้นไปอีกก็ควรทำตั้งแต่ตอนที่แมลงยังมีน้อยอยู่ ยังไม่ทันระบาด

นอกจากนี้ในนาข้าวเขตร้อนทั่วๆไปยังมีสัตว์อื่นๆอีกหลายชนิดที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของศัตรูพืช เช่น แมงมุม แมลงปอ มวนดูดไข่ จิงโจ้น้ำ แตนเบียน เชื้อจุลินทรีย์ และสัตว์ชนิดอื่นๆอีกมากมายซึ่งถือว่ามีอยู่อย่างเพียงพอที่จะควบคุมศัตรูข้าวที่มีชนิดสำคัญๆอยู่ไม่กี่ชนิดเอง แต่หากเราใช้สารเคมีมากเกินไปหรือใช้อย่างไม่ถูกต้อง เช่นสารพวกไพรีรอยส์และออกาโนฟอสเฟตที่มีพิษกว้างขวางทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในนาข้าวก็จะทำให้แมลงชนิดต่างๆที่ช่วยกำจัดศัตรูพืชหายไปด้วยดังนั้นในช่วง 30 วันหลังจากปลูกข้าวแล้วไม่ควรใช้สารเคมีกำจัดแมลงใดๆทั้งสิ้น ควรใช้วิธีธรรมชาติตามที่กล่าวมาข้างต้นจะดีกว่า
เคล็ดลับถัดไป
เคล็ดลับก่อนหน้า
วิธีช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีแก้ยางขนุนติดมือ

ขนุนเป็นผลไม้ไทยชนิดหนึ่งลักษณะผลกลมเป็นรูปวงรี ขนุนลูกโตเต็มที่และสุกพร้อมรับประทานจะใหญ่และหนักมากบางลูกยกคนเดียวแทบไม่ไหวก็มี เมื่อจะรับประทานขนุนต้องใช้มีดเล่มใหญ่ๆผ่าออกและผ่าตัดแต่งเป็นชิ้นเล็กๆอีกทีเสร็จแล้วต้องแกะเม็ดขนุนที่ผ่าตัดแต่งแล้วทีละเม็ดๆออกมาใส่จานหรือถาดรอรับประทาน เม็ดขนุนแต่ละเม็ดจะมีเนื้อขนุนสีเหลืองทองหอมอร่อยน่ารับประทานหุ้มอยู่ ขนุนแม้จะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหอมหวานเย็นชื่นใจ แต่ก็มียางเยอะ ยางสีขาวขุ่นๆเหนียวๆของขนุนจะค่อยซึมและไหลออกมาช้าๆเมื่อตอนผ่าขนุน ทำให้เมื่อต้องแกะขนุนใส่จานมือจะเปรอะเปื้อนไปด้วยยางเต็มไปหมด ยางขนุนที่ติดมือมานั้นล้างด้วยน้ำเปล่าหรือใช้สบู่ น้ำยาอะไรล้างก็ออกยากหรือล้างไม่ออกเลยก็ว่าได้ แต่มีวิธีหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหายางขนุนติดมือได้ดีทีเดียว วิธีที่จะกล่าวถึงก็คือหลังจากท่านผ่าขนุนและตัดแต่งพร้อมแกะเม็ดใส่จานพร้อมรับประทานแล้ว ให้ท่านไปล้างมือด้วยน้ำเปล่าสักครั้งก่อนพอให้เศษสิ่งสกปรกอื่นๆออกไปบ้างเสียก่อนแม้ยางขนุนจะไม่หลุดออกไปจากมือก็ตาม เสร็จแล้วให้เอากระดาษทิชชูหรือผ้าก็ได้มาเช็ดซับมือให้แห้งหลังจากนั้นให้เอาแป้งฝุ่นที่ใช้ทาต
อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับวิธีค้นหาเพื่อนเก่าในเฟสบุคหรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ

เคล็ดลับวิธีค้นหาเพื่อนเก่าในเฟสบุคหรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ กล่าวถึงการค้นหาบุคคลที่เรารู้จักโดยการพิมพ์ชื่อบุคคลลงไปในช่องค้นหา เคล็ดลับที่จะกล่าวถึงไม่เพียงแต่สามารถค้นหาเพื่อนเก่าในโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่างเฟสบุคเท่านั้นแต่ท่านสามารถใช้วิธีที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ค้นหาเพื่อนทางสื่อออนไลน์อื่นๆได้ผลดีอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นเซิร์จเอ็นจินเจ้าใหญ่อย่างกูเกิ้ล ยะฮู และอื่นๆอีกมากมาย หากท่านอยากติดต่อเพื่อนเก่า แฟนเก่า หรือคนสนิทที่ไม่เจอกันมาหลายปี หรือไม่ว่าใครก็ตามที่ต้องการค้นหา หากการค้นหาบุคคลดังกล่าวของท่านที่ผ่านมาค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่เคยเจอสักที พิมพ์ชื่อภาษาไทยในช่องค้นหาก็แล้ว พิมพ์ชื่อภาษาอังกฤษก็แล้วแต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาว่างเปล่า ลองใช้วิธีการค้นหาที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ดูครับแล้วท่านจะเจอเพื่อนเก่าได้ง่ายขึ้นหรือมีโอกาสเจอเพิ่มขึ้นสูงมากทีเดียว ลองมาดูกันครับว่า จะค้นหาเพื่อนเก่าในเฟสบุคหรือสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆให้เจอง่ายๆได้อย่างไร วิธีการก็คือให้ท่านพิมพ์นามสกุลเพื่อนของท่านลงไปในช่องค้นหาครับอย่าพิมพ์ชื่อลงไป เพราะเมื่อพิมพ์นามสกุลลงไปถึงแม้ไม่พบเพื่อนคนที่ท่านต้องการค้นหาแต่
อ่านเพิ่มเติม

เคล็ดลับล้างเนื้อเค็ม ปลาเค็มให้หายเค็มเร็วๆ

เคล็ดลับการล้างเนื้อเค็มให้หายเค็มเร็วๆที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้สามารถใช้ได้กับเนื้อสัตว์ทุกชนิดทีทำเค็มไว้ โดยเวลาที่ท่านจะนำเนื้อเค็มดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวเค็ม เนื้อปลาเค็ม เป็นต้น มาทำอาหาร ท่านต้องนำมาล้างให้ความเค็มออกไปเพื่อไม่ให้เค็มมากเกินไปเพราะหากเค็มมากเกินไปก็ไม่อาจรับประทานได้หรือแม้รับประทานได้ก็ไม่อร่อยเพราะรสเค็มจัดไปซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพด้วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวเค็มหรือเนื้อปลาเค็ม สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น นำมาแกงเทโพ แกงเผ็ดกะทิ หรือว่านำมาผัดเป็นข้าวผัดก็ได้ แน่นอนว่าทุกท่านทราบดีก่อนที่จำนำเนื้อเค็มมาปรุงอาหารนั้นต้องล้างออกก่อนแต่โดยส่วนใหญ่แล้วเกือบทุกคนมักจะนำมาล้างกับน้ำเปล่าถึงแม้จะเป็นวิธีที่ได้ผลแต่การล้างด้วยน้ำเปล่านั้นจะทำให้ความเค็มออกไปจากเนื้อสัตว์ได้ช้าเกินไป วิธีที่ได้ผลดีและรวดเร็วกว่าก็คือ   การใช้น้ำเค็มล้าง กล่าวง่ายๆก็คือให้ละลายน้ำเกลือล้าง ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้หลายคนแปลกใจและไม่เชื่อโดยคิดว่ามันไม่เค็มไปกันใหญ่หรือ แต่รับร่องว่าวิธีนี้ได้ผลจริงๆและสามารถล้างความเค็มออกได้รวดเร็วกว่าวิธีอื่นด้วยครับ ลองนำไปทดลองทำดู วิธีนี้คล
อ่านเพิ่มเติม