บทความ

อาหารที่ไม่ควรรับประทานถ้าอยากหุ่นดี

อาหารต่อไปนี้เป็นอาหารที่อันตรายต่อรูปร่างของเรา ซึ่งจำทำให้เราไม่สามารถทำให้สำเร็จตามเป้าที่เราวางเอาไว้นั่นก็คือ การรักษารูปร่างของเราให้สมส่วนตลอดกาล แฮมเบอร์เกอร์ อาหารโปรดของใครหลายๆคนอาจจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์แต่แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นกลมๆนี่แหละที่เป็นแหล่งของไขมันก้อนกลมๆ ที่อยู่ตรงหน้าท้องของเรา และนอกจากจะอ้วนแล้วก็ยังเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดโรคได้อีกด้วย ท่านรู้หรือไม่ว่าชิ้นเนื้อที่นำมาทำเป็นแฮมเบอร์เกอร์นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อส่วนที่แย่ที่สุด นอกจากนี้ก็ยังให้พลังงานที่มาจากไขมันในปริมาณที่สูงอย่างเหลือเชื่อเลยทีเดียวและนั่นก็เป็นเหตุผลที่บอกว่าเราไม่ควรจะรับประทานแฮมเบอร์เกอร์บ่อยๆ ไม่ว่าราคาที่จ่ายเป็นเงินจะถูกหรือแพง เพราะราคาที่จ่ายด้วยสุขภาพและความงามนั้นไม่คุ้มกันเลย ฮอทด็อก ฮอทด็อกก็มีลักษณะคล้ายๆกับแฮมเบอร์เกอร์นั่นก็คือเป็นอาหารที่ไม่ให้สารอาหารมาก และมีสารที่ก่อให้เกิดโรคร้ายอย่าง โรคมะเร็งกักตุนเอาไว้อยู่ในพลาสติกที่ห่อหุ้มตัวฮอทด็อกนั่นเอง ซึ่งเราก็ต้องระมัดระวังให้ดี และไม่ควรรับประทานฮอทด็อกบ่อยๆ โอริโอคุกกี้ สำหรับโอริโอคุก

บริหารหุ่นให้เซ็กซี่และดูดี

เริ่มจากการบริหารหน้าท้องกันแบบง่ายๆ 1 นอนหงาย โดยยกหัวเข่าให้ตั้งชัน แล้วยกลำตัวท่อนบนขึ้นจากพื้น โดยวางมือลงบนขมับ หรือบนต้นขา สูดหายใจเข้าลึกๆ ก้มคอลง โน้มตัวไปข้างหน้าและก้มหน้าลงให้ต่ำที่สุด คล้ายกับท่าซิทอัพ หายใจออกช้าๆ แล้วนับ 1-2 ค้างไว้ จากนั้นหันซ้าย ขวา โดยก้มหน้าและลำตัว ลงแบบเดิมสลับกัน แล้วกลับมาสู่ ตำแหน่งเดิม ท่านี้จะทำให้คุณรู้สึกตึงที่ลำคอ ดังนั้นให้คุณเริ่มจากการก้มคอในระดับที่สบายๆ ก่อนในกรณีที่คุณก้มคอไม่ลง ท่านี้ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อคอให้มีความยืดหยุ่นลดหน้าท้อง และทำให้กล้ามเนื้อท้องแข็งแรง 2 นอนคว่ำ วางข้อศอกให้ตั้งฉากกับลำตัว จากนั้นให้คุณยกลำตัวขึ้น โดยใช้ปลายเท้ายันพื้น คล้ายกับ ท่าวิดพื้น แต่แทนที่จะเป็นการใช้มือยันแขนขึ้น ให้คุณใช้ข้อศอกค้ำลำตัวไว้ ยกค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วลดลำตัวลง จากนั้นเริ่มใหม่ 3 นอนหงาย วางแขนลงกับพื้น ให้ห่างออกจากลำตัวเล็กน้อย ให้อยู่ในท่าที่สบาย จากนั้นให้ยกขาทั้งสองข้างขึ้นให้ได้ฉากจนรู้สึกตึงขา และหน้าท้อง ยกค้างไว้ 5 วินาที แล้วเอาลง จากนั้นทำใหม่ แล้วยกค้างไว้ 10 วินาที ทำเช่นนี้โดยให้เพิ่มเวลาขึ้น

กินของหวานอย่างไรไม่ให้น้ำหนักขึ้น

สำหรับสาวๆที่อยากจะรักษารูปร่างให้คงอยู่อย่างเดิมไปตลอดแต่ยังไม่อยากจะขาดความหวานในชีวิต ก็ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้สามารถมีพื้นที่เหลือรับประทานของหวานได้ครับ หากวันไหนอยากกินของหวานก็ให้ลดอย่างอื่น หากรู้ตัวว่าอยากรับประทานของหวานหรือว่าอยากจะรับประทานอะไรที่มีแคลอรีสูงๆ ก็ให้ท่านรับประทานอาหารมื้อหลักให้น้อยลง กล่าวคือ ในวันๆหนึ่ง ร่างกายของเราจะต้องการพลังงานวันละ 1,200 แคลอรี เราจะรับประทานอะไรก็ได้ภายในวันหนึ่งๆแต่ก็ห้ามเกิน 1,200 แคลอรี ไม่เช่นนั้นจะทำให้เราอ้วน พูดง่ายๆก็คือหากว่าท่านรับประทานของหวานแล้ว ก็ให้รับประทานสลัดในมื้อใหญ่เป็นการทดแทนนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดี การรับประทานแต่ของหวานหรือขนมก็ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะจะทำให้เราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกาย เลือกรับประทานของหวานไขมันต่ำ ใช่ว่าตอนนี้จะไม่มีไอศกรีมไขมันต่ำออกมาขาย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นไอศกรีม แต่ก็มีปริมาณไขมันและแคลอรีต่ำกว่าไอศกรีมธรรมดาทั่วๆไป และให้ความหวานอร่อยที่ไม่แตกต่างกันมากอีกด้วย นอกจากไอศกรีมแล้วก็ยังมีของหวานอื่นๆ ที่วางขายเป็นแบบไขมันต่ำ ซึ่งหากว่าท่านหันมารับประทานขอ

ไขมันก็มีประโยชน์

ไขมันทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชน หรือเบาะที่จะป้องกันการยึดเหนี่ยวไม่ให้อวัยวะภายในร่างกาย เช่นตับ ปอด หัวใจ ไต ลำไส้ มากระแทกกันรวมทั้งป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียความร้อน คล้ายเป็นเสื้อกันหนาวให้กับร่างกาย จะสังเกตได้เป็นอย่างดีว่าคนผอมจะขี้หนาวกว่าคนอ้วน นอกจากนี้ยังมีกรดไขมัน โดยเฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะเป็นตัวควบคุมการทำงานของร่างกาย ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ไม่กระด้าง หากขาดกรดไขมันเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสารผิวไม่เรียบได้ และถ้าคนขาดไขมันก็จะขาดวิตามินประเภท เอ ดี อี เค เพราะวิตามินเหล่านี้สามารถละลายได้ในไขมัน และถ้าขาดวิตามินเหล่านี้ คุณก็จะเกิดอาการผิดปกติต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสายตาหรือกระดูด ดังนั้นเราสามารถกินอาหารที่มีไขมันได้ แต่ควรอยู่ในปริมาณที่พอดี ร่างกายของคนเรามีเนื้อเยื่อไขมันอยู่ 2 ชนิด คือไขมันสีขาวและไขมันสีน้ำตาล ไขมันสีขาว เผาผลาญเพื่อให้ได้พลังงาน ทำหน้าที่กันความเย็นและเป็นเสมือนเบาะกันกระแทก ไขมันสีน้ำตาล มักพบในเด็กทารก ส่วนมากอยู่บริเวณไหล่ มีความสำคัญในแง่พลังงาน ช่วยทำให้เด็กอบอุ่น เพราะในเด็กทารกจะไม่มีไขมันสีขาว ไขมันพบได้ที่ไหนบ้า

วิธีประคองตัวไม่ให้อ้วน

เมื่อต้องรับเลี้ยงในงานต่างๆ 1 คิดล่วงหน้าว่า อะไรคือสิ่งที่คุณจะรับประทาน และจะละเว้นอาหารอะไรบ้าง ข้อสำคัญทำให้ได้ตามที่คุณตั้งใจไว้ 2 ทานเพียงนิดๆหน่อยๆ อย่างละคำสองคำ พอรู้รสชาติอาหาร 3 ทานข้าวน้อยๆ ทานกับที่เป็นผักเยอะๆ หรือทานสลัดน้ำใสและผลไม้ต่างๆ ให้มากๆ จินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้มังสวิรัติ เพราะนอกจากจะได้บุญแล้วยังทำให้หุ่นดีอีกด้วย 4 หากอยากทานเนื้อสัตว์ ให้เลือกเฉพาะที่ไม่ติดมัน และเลือกชิ้นบางๆเท่านั้น 5 เคี้ยวช้าๆ เพราะทานช้าจะอิ่มเร็ว ทานเร็วอิ่มช้า 6 เดินให้ไกลจากโต๊ะอาหาร พยายามเดินทักทายเพื่อนฝูงหรือขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง เสมือนกับคุณกำลังบริหารร่างกายไปในตัว 7 เบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง โดยการหันไปฟังเพลงหรือคุยกับเพื่อนที่นานๆเจอกันที 8 หลังเลิกงานพยายามใช้บันใด อย่าใช้ลิฟต์ เพื่อเป็นการย่อยอาหาร และออกกำลังกาย จัดเลี้ยงในงานพบปะสังสรรค์ ไม่ว่าคุณจะจัดเลี้ยงหรือรับเลี้ยง สิ่งสำคัญที่คุณจะต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจคือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยหันไปดื่มน้ำส้ม น้ำมะนาว หรือที่ดีที่สุดคือน้ำเปล่า เคล็ดลับถั

โรคภัยที่มากับความอ้วน

1 ปวดหัวเข่าก่อนวัยอันควร เกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปกดลงบนหัวเข่าทั้งสองข้างเป็นเวลานานหลายปี ทำให้เกิดอาหารปวดเข่าทั้งๆที่ยังไม่แก่ตัวได้ 2 ปวดหลัง สาวๆที่น้ำหนักตัวมาก อาจมีอาการปวดหลังได้ เนื่องจากหน้าท้องที่ย้อยมากๆจะถ่วงน้ำหนักด้านหน้าทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักทำให้เกิดอาหารปวดหลังตามมาได้ 3 มีโอกาสของโรคความดันโลหิตสูงได้ง่ายขึ้น ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติของความดันโลหิตสูงอยู่ด้วย จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้มากขึ้น ผลตามมาคือทำให้สมอง หัวใจ ไต ตาและเส้นเลือดต่างๆ เสื่อมลงเร็วกว่าคนปกติ 4 มีโอกาสเป็นเบาหวานมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีกรรมพันธุ์ของเบาหวานอยู่แล้ว จะเป็นเกือบทุกราย 5 มีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เนื่องจากความอ้วนทำให้มีไขมันในเลือดสูง ทำให้ส่วนประกอบในน้ำเปลี่ยนไป เกิดการตกตะกอนในน้ำดี เกิดเป็นนิ่วได้ง่ายขึ้น เคล็ดลับถัดไป วิธีประคองตัวไม่ให้อ้วน เคล็ดลับก่อนหน้า เคล็ดลับกินอย่างไรให้หุ่นสวยดูดีได้

เคล็ดลับกินอย่างไรให้หุ่นสวยดูดีได้

หากท่านเป็นคนหนึ่งที่เป็นหนุ่มหรือสาวทำงาน แล้วรู้สึกว่าตัวเองใช้พลังงานไปมากมายเหลือเกินในแต่ละวัน และหาทางออกในการชดเชยพลังงานที่สูญเสียไป โดยการแอบขนมหวาน หรือของกินจุบจิบไว้ในลิ้นชักโต๊ะและรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเจ้านายเผลอแล้วรู้สึกเหมือนพละกำลังทั้งหลายมันกลับคืนมา ขอให้คุณทราบไว้เลยว่า คุณเข้าใจผิดถนัด แท้ที่จริงแล้วคุณสามารถรับประทานตามใจปากได้โดยระมัดระวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นโดยปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้ 1 อย่าลดอาหารที่มีแคลอรีทั้งหมด มันจะดีไม่น้อยที่คุณไม่ต้องเกร็งกับการพกเครื่องคิดเลขไว้คอยคำนวณปริมาณ แคลอรีอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่คุณรับประทานอาหารตามปกติ เพื่อให้พลังงานแก่ร่างกาย โดยขอให้คุณงดเว้นลูกอมหรืออาหารที่ไม่มีสารอาหารที่มีคุณค่าเท่านั้นครับ 2 รับประทานอาหารที่มีโปรตีน หากปริมาณน้ำตาลในเลือดของคุณคงที่ก็ไม่ต้องขวนขวายไปหรอกครับ แต่หากน้ำตาลในเลือดต่ำก็ทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น ถั่ว ทูน่า และดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว 3 รับประทานอาหารไทยดีกว่าฟาสต์ฟู้ด เนื่องจากอาหารไทยเพียบพร้อมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด ฟาสต์ฟู้ดอาจทำให้คุณอิ่มท้อง