บทความ

วิธีป้องกันไม่ให้กระทะเป็นรอยดำ

กระทะนับเป็นอุปกรณ์ปรุงอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งซึ่งขาดไม่ได้ เชื่อว่าทุกครัวเรือนจะมีกระทะอย่างน้อยหนึ่งใบไว้ปรุงอาหารรับประทาน หรือบางทีบางบ้านอาจมีหลายใบก็ได้เพราะกระทะมีหลายขนาดแต่ละขนาดก็สามารถนำมาใช้งานได้แตกต่างกันไป กระทะขนาดกลางที่ใช้กันโดยทั่วไปส่วนมากจะมีไว้ทอดอาหาร ผัดอาหาร หรือแม้แต่ทอดไข่เจียว ส่วนกระทะใบใหญ่หน่อยก็มักจะใช้เวลามีการจัดงานใหญ่ๆที่ต้องเชิญแขกเหรื่อจำนวนมากมารับประทานอาหาร เช่น งานแต่งงาน งานบุญต่างๆเป็นต้น ในกรณีนี้กระทะใบใหญ่หรือที่เรียกว่ากระทะใบบัวนอกจากจะปรุงอาหารจำพวกแกงต่างๆได้แล้ว ยังสามารถนำมาหุงข้าวได้อีกด้วยเพราะกระทะใบกว้างใหญ่หุงได้สะดวกดี   แต่ปัญหาอย่างหนึ่งในการใช้กระทะก็คือเมื่อใช้ไปนานๆจะเกิดเป็นรอยดำไหม้ในกระทะจนดูแล้วไม่น่าใช้ และการจะทำความสะอาดโดยการขัดถูให้ดูดีเหมือนใหม่ก็กระทำได้ยากมากเพราะต้องขัดกันนานและออกแรงเยอะด้วย ดังนั้นควรจะป้องกันไว้ดีกว่าเพราะทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก วิธีป้องกันไม่ให้กระทำดำง่ายๆแต่ไดผลดีแน่นอนก็คือ เริ่มจากเมื่อซื้อกระทะมาใหม่ๆให้นำกระทะไปตั้งไฟจนร้อนจัด เสร็จแล้วให้เทน้ำส้มสายชูลงไปจนท่

ประโยชน์และสรรพคุณของถั่วเขียว

ถั่วเขียวไม่เพียงแต่เป็นอาหารรับประทานทั่วไปอย่างเดียวแต่ยังถือเป็นสมุนไพรได้ด้วยและจัดอยู่ในสมุนไพรฤทธิ์เย็นซึ่งมีสรรพคุณดังต่อไปนี้   สรรพคุณของถั่วเขียว ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็นรสหอมหวานด้วยเหตุนี้จึงมีสรรพคุณโดดเด่นในการขับร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยขับปัสสาวะและของเหลวอื่นๆ ช่วยรักษาอาการบิด แก้หวัด คออักเสบ ถอนพิษที่เกิดจากสารหนู ช่วยลดความดันโลหิต แก้เบาหวาน บำรุงสายตา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของไตและม้าม แก้อาการตกขาวและอาการน้ำอสุจิเคลื่อนบ่อย นอกจากนี้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียวเป็นแหล่งเส้นใยที่ดี จึงช่วยป้องกันท้องผูก ริดสีดวงทวาร ช่วยรักษาโรคตาแดง ตาอักเสบ ช่วยให้เจริญอาหาร และถั่วเขียวยังมีปริมาณไขมันที่ต่ำกว่าถั่วลิสงและถั่วเหลืองจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก วิธีใช้ถั่วเขียว 1 นำถั่วเขียวมาต้มกับน้ำตาลหรือไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้ สามารถใช้กินเป็นยาและอาหาร ช่วยแก้ร้อนในและเพิ่มพลัง 2 นำถั่วเขียว ลูกเดือยและสะระแหน่ต้มรวมกัน ใส่น้ำตาลเล็กน้อย ใช้กินรักษาอาการร้อนใน ตาแดง ริดสีดวงทวารและโรคผิวหนังบางชนิดได้ 3 นำถั่วเขียว แตงกวา ฟักเขียว

ประโยชน์และสรรพคุณตังกุย

สรรพคุณของตังกุย ตังกุยมีฤทธิ์อุ่น รสหวานอมขมและเผ็ด เพราะประกอบด้วยสารแอลคาลอยต์   น้ำมันหอมระเหย วิตามินเอ วิตามินบี และเกลือแร่ จึงช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสมอง ตับ ต่อมน้ำเหลือง กระตุ้นการทำงานของหัวใจและการไหลเวียนของเลือด รากส่วนบนของตังกุยเรียกว่า ตังกุยเท้า นิยมนำมาเป็นยาบำรุงร่างกาย รากส่วนล่างเรียกว่า ตังกุยบ๊วย ใช้รักษาอาการปวดประจำเดือน ขับประจำเดือน ตกเลือด แก้หวัด และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่าตังกุยช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้องอกและเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบและยังรักษาโรคหอบหืดได้อีกด้วย วิธีใช้ตังกุย 1 ตังกุยถือเป็นเครื่องยาจีนที่เหมาะจะนำมาตุ๋นร่วมกับเนื้อสัตว์ไม่ติดมันหรือเครื่องใน เช่น ตับแพะ ไก่ดำ และตังกุยยังเข้ากันได้ดีกับ งา อึ้งคี้ และเส็กตี่ 2 ใช้ตังกุยกับงาแดงในส่วนสัดเท่ากันนำมาต้มกินเพื่อช่วยระบายและบรรเทาอาการท้องผูกได้ 3 นำตังกุย 30 กรัม อึ้งคี้ 9 กรัม มาต้มน้ำใช้ดื่มเพื่อรักษาอาการซีดเนื่องจากขาดเลือด โรคโลหิตจาง และการเสียเลือดจากการมีประจำเดือน 4 นำตังกุยกับไก่ดำมาต้มรวมกันกินเป็นซุป ช่วยบำรุงสุขภาพได้ดีทีเดียว 5

ประโยชน์ของชะเอม

สรรพคุณของชะเอม ชะเอมถือเป็นยาจีนอีกชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์เป็นกลางซึ่งในตำราจีนโดยทั่วไปนิยมใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น ใช้บำรุงร่างกาย ม้าม และเพิ่มพลัง ชะเอมดิบมีสรรพคุณต้านพิษจากอาหารและยาได้ดี นอกจากนี้สารประกอบในชะเอมช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทั้งยังบรรเทาอาการปวด ลดอาการอักเสบ ช่วยขับเหงื่อ และในตำรายาโบราณของไทยมักใช้ชะเอมเป็นยาขับเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ รักษาโรคชัก ครรภ์เป็นพิษ และแก้อาการท้องผูก วิธีใช้ชะเอม 1 นำชะเอม บ๊วยดำ ซัวจาและน้ำตาลเล็กน้อยต้มรวมกัน เสร็จแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำไว้ดื่มหลังอาหารสามารถแก้ร้อนในและช่วยย่อยอาหารได้ 2 ต้มต้นชะเอมกับข้าวสาลีไม่ขัดขาว และอินทผาลัม กรองเอาแต่น้ำไว้ดื่มช่วยคลายความเหนื่อยล้า ทำให้สมองผ่อนคลาย แก้ปวดหัวได้ 3 ต้มชะเอมกับขิงแห้ง เคี่ยวทิ้งไว้สักระยะ นำน้ำที่ได้มาดื่มบรรเทาอาการปอดบวม หลอดลมอักเสบ และฝีในปอดได้ ข้อควรระวังในการใช้ชะเอม 1 หากกินชะเอมติดต่อกันอาจทำให้ความดันโลหิตสูงและมีอาการบวมน้ำ แต่อาการจะหายไปเองเมื่อหยุดกิน 2 สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ