การดูแลรักษาตับ
ตับเป็นอวัยวะภายในของคนและสัตว์สามารถทำหน้าที่ได้หลายอย่างเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้
ตับมีหน้าที่หลักๆ คือ ผลิตน้ำดีให้ถุงน้ำดี ช่วยกรองเลือด ส่งเลือดที่ดีไปเลี้ยงร่างกาย
และส่งเลือดไปยังไต นอกจากนี้ยังช่วยล้างสารพิษ ช่วยย่อยอาหาร รวมทั้งดูแลผม ขน
เล็บ หากตับทำงานหนัก ไตจะมาช่วยตับทำงาน หากทำงานหนักเกินไป
ตับจะเสียส่วนไตก็จะเสื่อม
หากกินบ่อย กินผิดเวลา กินอาหารหนักแล้วเข้านอนไม่เพียงเฉพาะกระเพาะอาหารเท่านั้นที่ทำงานหนัก
แต่จะทำให้ตับทำงานหนักไปด้วย ตับจะมีหน้าที่รอย่อยอาหารในมื้อเช้าระหว่างเวลา 7 โมง ถึง 9 โมง ถ้าเราไม่ได้กินอาหารในช่วงเวลาดังกล่าวแต่ไปกินเวลาที่ตับเลิกทำงานแล้วหรือหลังจากเวลา
9 โมง (สำหรับ อาหารเช้า) ตับก็จะทำงานผิดเวลา โดยเฉพาะระหว่างเวลาตี 1 ถึงตี 3 ร่างกายต้องนอนหลับสนิทและตับก็ต้องขับสารพิษออกจากร่างกายก็ไม่ควรรับประทานอาหารระหว่างช่วงเวลานี้ควรรับประทานเมื่อเลยเวลาดังกล่าวไปแล้ว
นอกจากนี้หากเรามีอารมณ์โกรธ โมโห
อิจฉาหรือเครียดจะทำให้เซลล์ในตับตายไปเป็นจำนวนมากส่งผลให้ตับเสื่อมเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้นแต่หากทำการโกรกผม ทาเล็บ ใช้ยาสระผม
ทาปากด้วยเครื่องสำอางที่มีสารเคมีเจือปนอยู่บ่อยๆ สารเคมีเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังตับโดยตรงแล้วสะสมเป็นเวลานาน
ทำให้ตับมีปัญหาสังเกตได้ขอบใต้ตาจะดำ อาหารจะไม่ย่อย ท้องอืด ลมแน่นท้อง
เลือดไม่ไปเลี้ยงกระดูกเชิงกราน สำหรับผู้หญิงมดลูกจะเริ่มโต เจ็บตึงที่ส้นเท้า
ส่วนผู้ชายก็เป็นต่อมลูกหมากโตได้
วิธีล้างสารพิษในตับ
1 นำเห็ดสามอย่างมาผัดอาหารรับประทาน แต่อย่าปรุงกับน้ำมัน ให้ใช้น้ำกะทิแทนน้ำมันจะได้ประโยชน์กว่า
หรือต้มเห็ดแล้วกินแต่น้ำก็ได้
2 กินขมิ้นชันก่อนเข้านอน (ไม่จำกัดจำนวน)
3 เมื่อตับแข็งแรง จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
4 งดใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีกับใบหน้า
งดใช้ยาสระผมที่มีสารเคมี เพราะสารเคมีจะเข้าไปถึงตับโดยตรง
5 งดทานอาหารที่ใส่ผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมท
เพราะจะไปตกค้างอยู่ในตับ ทำอันตรายต่อตับโดยตรงและทำให้เลือดหนืด
6 ไม่ควรกินอาหารระหว่างตี 1 ถึงตี 3 เพราะถ้ากินเวลานี้ตับจะไม่ทำหน้าที่หลักคือ
การขับสารพิษออกจากร่างกาย
นอกจากนี้ให้ระลึกไว้เสมอว่าถึงจะกินอะไรบำรุงร่างกาย
แต่หากสารพิษยังตกค้างอยู่ในร่างกาย ก็ไม่เกิดประโยชน์
เคล็ดลับถัดไป
บทความก่อนหน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น