บทความ

วัตถุดิบในการทำอาหารไทย แป้งชนิดต่างๆตอนที่ 2

แป้งข้าวโพด เป็นแป้งที่สกัดจากเมล็ดข้าวโพด มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหลืองนวลเมื่อสัมผัสผิวของแป้งจะเนียนลื่นมือ เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้นและใสไม่คืนตัวง่าย เมื่อประกอบเป็นตัวแป้งจะจับตัวเป็นก้อนแข็งร่วน เป็นมันวาว นิยมนำมาผสมกับอาหารเพื่อต้องการความข้นอยู่ตัว แป้งถั่วเขียว เป็นแป้งที่สกัดมากจากถั่วเขียว เมล้ดแห้งมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สัมผัสแล้วจะสากมือ ก่อนใช้ควรนำมาบดให้เป็นผงก่อน เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะข้นค่อนข้างใส เมื่อพักให้เย็นแป้งจะจับตัวเป็นก้อนแข็ง ข้างในเหนียวเหมาะในการทำอาหารที่ต้องการความใสอยู่ในตัว เช่น ซาหริ่ม ขนมลืมกลืน เป็นต้น แป้งท้าวยายม่อม สกัดมาจากหัวมัน มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวเป็นเงา เวลาใช้ต้องบดให้ละเอียดเป็นผง เมื่อนำไปประกอบอาหารจะให้ความข้นเหนียวหนืดและใสเมื่อทำให้เย็นจะเหนียวตัวกว่าแป้งมันสำปะหลังนิยมนำมาใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่นๆ เพื่อให้ได้อาหารที่มีความข้นเหนียว เป็นมันวาว เช่น ขนมชั้น ขนมน้ำดอกไม้ เป็นต้น แป้งสาลี ทำจากเมล็ดข้าวสาลี ลักษณะเป็นผงสีขาวเมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะร่วนเหลวไม่อยู่ตัว คุณภาพของแป้งสาลีขึ้นอยู่กับปริมาณโปรตีนในเมล

วัตถุดิบในการทำขนมไทย ตอนที่ 1

ขนมไทยส่วนใหญ่แล้วทำมาจากข้าวและส่วนประกอบอื่นๆ เช่น สี กลิ่นหอมจากธรรมชาติ นอกจากนี้ข้าวที่นำมาใช้ในการทำขนมไทยมีทั้งที่ในรูปของข้าวที่เป็นเมล็ดและข้าวที่แปรรูปเป็นแป้งแล้ว แป้งที่ใช้ในการประกอบการทำขนมหวานไทย มีดังต่อไปนี้ แป้งชนิดต่างๆที่ใช้ทำขนมไทยมีดังต่อไปนี้ แป้งข้าวจ้าว ลักษณะและการนำมาประกอบอาหาร แป้งชนิดนี้เป็นแป้งที่ทำจากเมล็ดข้าวเจ้า มีลักษณะเป็นผงสีขาวจับแล้วจะรู้สึกได้ว่าสากมือเล็กน้อย ถ้าทิ้งให้เย็นจะจับตัวเป็นก้อน เหมาะที่จะใช้ประกอบอาหารที่ต้องการความอยู่ตัว ร่วนไม่เหนียวหนืด อาหารที่ทำจากแป้งข้าวเจ้า เช่นขนมขี้หนู ขนมกล้วย เส้นขนมจีน เป็นต้น แป้งข้าวเหนียว ลักษณะและการนำมาประกอบอาหาร แป้งข้าวเหนียวทำมาจากเมล็ดข้าวเหนียว มีลักษณะเป็นผงสีขาว จับแล้วสากมือเล็กน้อยเช่นกัน เมื่อนำไปทำให้สุกจะมีลักษณะสีขุ่นข้น เหนียวหนืด พอแป้งถูกความร้อนจะจับตัวเป็นก้อนค่อนข้างเหนียวเหมาะในการนำมาประกอบอาหารที่ต้องการความเหนียวเกาะตัว เช่น ขนมเทียน ขนมถั่วแปบ ขนมต้ม เป็นต้น แป้งมันสำปะหลัง ลักษณะและการนำมาประกอบอาหาร เป็นแป้งที่ทำมาจากหัวมันสำปะหลัง มีลักษณะเป

วิธีแก้ปัญหาก๊อกน้ำมีน้ำรั่วจากปากก๊อก

กรณีนี้ให้ท่านสังเกตว่าหากปิดก๊อกสนิทดีแล้วแต่น้ำก็ยังไม่หยุดไหลออกจากปากก๊อกโดยมีน้ำไหลออกมาเรื่อยๆ รอดูเท่าไหร่น้ำก็ยังไม่หยุดไหลสักที ถ้าเป็นแบบนี้เป็นไปได้ว่า แหวนยางที่มีหน้าที่ในการควบคุมการเปิดและปิดน้ำได้เสื่อม สภาพหมดอายุการใช้งานแล้ว ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ก่อนที่จะเปลี่ยนแหวนยางดังกล่าวต้องตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่า แหวนยางมีลักษณะแบบไหน กล่าวคือถ้าแหวนยางกับวาล์วติดเป็นชิ้นเดียวกันท่านต้องทำการเปลี่ยนใหม่หมดทั้งชุดแต่ถ้าแหวนยางติดตั้งแบบสลักเกลียวติดกับวาล์วกั้นสามารถเปลี่ยนแค่แหวนยางเพียงอย่างเดียวหรือจะเปลี่ยนใหม่หมดทั้งชุดก็ได้เช่นกัน ดูขั้นตอนการเปลี่ยนได้ดังต่อไปนี้ 1 ให้นำผ้ามาหุ้มน๊อตที่เป็นตัวยึดเพลา (แกนหมุน) แล้วเอาคีมคอม้ามาคลายเกลียวเพียงเล็กน้อย เสร็จแล้วเอาคีมคอม้าออกแล้วให้ใช้มือค่อยๆหมุนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเพลาหลุดออกมา ถ้าหัวก๊อกเป็นพลาสติกจะต้องถอดเพลาและถอดหัวออกมาด้วย 2 นำคีมมาดึงเอาวาล์วที่เป็นตัวกั้นออก พอเอาน๊อตออกมาได้แล้วก็นำแหวนยางอันใหม่มาเปลี่ยนได้เลยและใส่วาล์วที่เป็นตัวกั้นน้ำกลับเข้าที่เหมือนเดิม 3 นำเพลาและหัวก๊อกใส่เข

วิธีขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องครัว

ห้องครัวถือเป็นสถานที่หนึ่งที่จำเป็นต้องมีไว้ภายในบ้านเพราะต้องใช้ในการทำอาหารไว้รับประทาน เนื่องจากคนเราจะรับประทานอาหารสามมื้อต่อวันเป็นอย่างน้อยดังนั้นห้องครัวจึงสามารถรองรับวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้อย่างดีทีเดียว แม้หลายท่านจะรับประทานอาหารนอกบ้านบ้างแต่ก็ไม่ทุกมื้อ เมื่อห้องครัวเป็นสถานที่ใช้หุงหาอาหารก็เป็นธรรมดาที่ห้องครัวจะมีกลิ่นอาหาร หรือกลิ่นคาวต่างๆจากการประกอบอาหารติดอยู่ตามผนังหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆในห้องครัว หรือล่องลอยอยู่ในห้องครัว ดังนั้นวันนี้เราจะนำเสนอ วิธีขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องครัว กันโดยมีวิธีทำง่ายๆที่ท่านสามารถทำได้และไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรมากมายเลย ให้เตรียมสิ่งต่อไปนี้ก่อน 1 น้ำส้มสายชู 2 เปลือกส้ม วิธีขจัดกลิ่นเหม็นในห้องครัวอย่างง่าย ให้ท่านนำหม้อมาตั้งไฟเสร็จแล้วหยดน้ำส้มสายชูลงไปสักนิดหน่อย ความร้อนจากเตาไฟจะทำให้น้ำส้มสายชูระเหย กลิ่นของน้ำส้มสายชูที่ระเหยจะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ต่างๆในห้องครัวให้หมดไปได้ หรืออีกวิธีหนึ่งก็ใช้ได้เหมือนกัน กล่าวคือ ให้ท่านนำ เปลือกส้มมาเผาบนเตาแก๊ส กลิ่นเผาไหม้ของเปลือกส้มก็สามาร

วิธีปฏิบัติเมื่อแบตเตอรี่รถยนต์หมด

แบตเตอรี่ถือว่าเป็นอุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งที่สำคัญต่อรถยนต์   เพราะการจะสตาร์ทรถหรือทำอะไรก็ตามจะต้องอาศัยไฟจากแบตเตอรี่แทบทั้งหมดก็ว่าได้ โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่ที่มากับรถใหม่มักจะหมดหลังจากใช้งานไปได้ประมาณ 1 – 2 ปี ดังนั้นจึงควรมีสายพ่วงติดรถเอาไว้เสมอครับ ตามหลักหากไม่ได้สตาร์ตเครื่องไว้ก็ไม่ควรเปิดใช้ไฟฟ้าในรถอย่างไม่จำเป็นไม่ว่าจะเปิดวิทยุ เปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้หรือเปิดแอร์เพราะนอกจากจะทำให้แบตเตอรรี่เสื่อมเร็วแล้ว การเปิดแอร์ไว้โดยไม่ดับเครื่อง ยังทำให้ระบบปรับอากาศภายในรถเสื่อมเร็วอีกด้วย อาการแบตเตอรี่หมดสังเกตได้จากสตาร์ตเครื่องไม่ติดหรือไฟรถไม่สว่างซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งวิธีการชาร์จแบตเตอรี่นั้นง่ายมากและคุณก็สามารถทำเองได้ครับ วิธีชาร์ตให้จอดรถที่แบตเตอรี่หมดและรถที่จะชาร์จให้หันหน้าเข้าหากันดับเครื่อง ใส่เกียร์ว่าง ดึงเบรกมือขึ้น และเปิดฝากระโปรงหน้ารถ จากนั้นให้ต่อขั้วสายพ่วงสำหรับชาร์จแบตเตอรี่โดยต่อขั้วบวก จากคันที่แบตเตอรี่หมดเข้ากับขั้วบวกของอีกคันด้วยสายสีแดง และต่อขั้วลบจากคันที่ให้พ่วงเข้ากับขั้วลบคันที่แบตหมดแต่ระวังอย่าให้ปากของทั้

วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง

โซฟามีหลายประเภทแต่ละประเภทก็ต้องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป ในที่นี้จะกล่าวถึงโซฟาหนัง ซึ่งถ้ารู้วิธีดูแลที่ถูกต้อง การดูแลรักษาและการขจัดรอยเปื้อนต่างๆก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอีกต่อไป เคล็ดลับการดูแลรักษาโซฟาหนัง เริ่มแรกให้หามุมจัดวางโซฟาหนังตัวโปรดซึ่งควรวางไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกและแห้ง ไม่ควรวางไว้ในบริเวณที่มีแดดจัดส่อง เพราะจะทำให้หนังโซฟามีสีซีดและแห้งกรอบได้ ส่วนการทำความสะอาดให้ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆเช็ดทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งและควรทาน้ำยาเคลือบหนังปีละ 2 ครั้ง ถ้าโซฟาหนังสกปรกให้ใช้ฟองน้ำเปียกชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดรอยเปื้อนนั้น แล้วใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามอย่างน้อย 2-3 ครั้ง แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้หมาด เสร็จแล้วนำน้ำยาเคลือบเงาหนังมาลง เพียงเท่านี้โซฟาหนังก็จะสะอาดเหมือนใหม่แล้วล่ะ แต่ถ้าหากโซฟาหนังเปื้อนน้ำ หรือเครื่องดื่ม ก็เพียงใช้ผ้าสะอาดหรือฟองน้ำเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าเปียกเช็ดตามอีกครั้งก็ได้แล้ว และถ้าหากโซฟาหนังเปื้อนน้ำมัน ให้นำแอลกอฮอล์ผสมกับทินเนอร์ในอัตราส่วน 2:1 แล้วใช้ผ้าชุบให้พอหมาดๆเช็ดทำความสะอาดเสร็จแล้วให้เช็ดตามด้วยผ้าเปียกและผ

วิธีปฐมพยาบาลผู้ที่โดนดอกไม้ทะเล

ดอกไม้ทะเลชื่อว่าดอกไม้ทะเลก็จริงแต่แท้ที่จริงแล้วเป็นสัตว์ทะเลที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม ที่ปากมีหนวดเรียงรายอยู่รอบๆ ด้านล่างเป็นฐานยึดเกาะอยู่กับก้อนหินหรือก้อนปะการัง บางครั้งดอกไม้ทะเลก็ฝังตัวลงในพื้นทะเลบริเวณดินเลนหรือดินทรายและเมื่อเราสัมผัสหนวดของดอกไม้ทะเล จะทำให้เกิดผื่นแดงและคันบริเวณที่สัมผัส ถ้าอาการรุนแรงมากจะทำให้เกิดอาการบวมแดง มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคนด้วย การปฐมพยาบาลผู้โดนดอกไม้ทะเลเบื้องต้น การปฐมพยาบาลผู้โดนดอกไม้ทะเลเบื้องต้น ให้ใช้น้ำส้มสายชูล้างแผลและพยายามล้างเอาเมือกและชิ้นส่วนของดอกไม้ทะเลออกให้หมด ทาด้วยคาลาไมน์โลชั่น และสังเกตอาการต่อไป ถ้าผู้ป่วยมีอาการทรุดลงให้น้ำส่งแพทย์โดยด่วน เคล็ดลับถัดไป วิธีดูแลรักษาโซฟาหนัง เคล็ดลับก่อนหน้า วิธีขจัดคราบสนิมเกาะเตารีด